สำหรับมนุษย์นั้น โกหกอะไรก็โกหกกันได้ แต่จะโกหก “สังขาร” นั้น มันเป็นไปไม่ได้…

ในช่วงปลายยุค 2010 แมนนี ปาเกียว เพิ่งแจ้งเกิดเป็นยอดมวยระดับขึ้นห้างใหม่ ๆ ผ่านการดวลกำปั้นกับสุดยอดมวยอย่าง มาร์โก อันโตนิโอ บาร์เรรา, ฮวน มานูเอล มาร์เกซ, เอริค โมราเลส และอีกมากมาย จนกระทั่ง”ขึ้นลิฟต์” เป็นสุดยอดมวยเบอร์ 1 ของโลก ด้วยการเอาชนะ ออสการ์ เดอ ลา โฮยา เมื่อปี 2008

ด้วยสไตล์การชกที่มีพลังกำปั้นหนักหน่วงชนิด “ต่อยหล่นได้ในหมัดเดียว” ถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่ทั้งบรรดาเกจิและอดีตคู่ชกของ ปาเกียว ต่างบอกว่าเป็นจุดแข็งที่สร้างความลำบากให้คู่ต่อสู้มากที่สุด คือเรื่องของ “ความเร็ว”

หลายคนบอกว่ายอดมวยตากาล็อกรายนี้ มีสปีดหมัดและสปีดเท้าที่เร็วเหนือมนุษย์ เข้าออกและออกหมัดได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ

และนั่นคือสิ่งที่หายไป บนเวทีในการชกกับ ยอร์เคนิส อูกัส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา…

สปีดหมัดอาจจะยังพอมีเหลือ แต่สปีดเท้าของ ปาเกียว หายไปจากยุครุ่งเรื่องนิด “คนละเรื่อง”

ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมเป็นเรื่อปกติในวัน 42 ย่าง 43 ปี แม้ว่าจะฟิตร่างกายมาเปรี๊ยะขนาดไหน แต่ทุกอย่างมันย่อมช้าลงไปตามสังขาร

แถมพลังกำปั้นที่เคยต่อยคู่ชกลงไปคลุกฝุ่นเป็นว่าเล่นนั้นก็ดูเหมือนจะลดประสิทธิภาพลงไป เพราะถ้านับตั้งแต่ ปาเกียว ขยับขึ้นมาต่อยในรุ่นเวลเตอร์เวต และซูปอร์เวลเตอร์เวตนั้น เขาชนะแบบไม่ครบยกแค่ 2 ไฟต์ ากการขึ้นชก 18 ครั้ง

รูปเกมบนเวทีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น อูกัส ที่ได้เปรียบรูปร่าง ใช้ “เกมรับ” นำทางชัดเจนจน ปาเกียว เจาะไม่เข้า เขาสวมหมวกกันน็อคยกการ์ดสูงตามสไตล์ของ อิสมาเอล ซาลาส ผู้เป็นเทรนเนอร์ ใช้จังหวะ 2 ดึงให้ยอดมวยตากาล็อกออกอาวุธก่อนแล้วค่อยสวนด้วยหมัดขวายาว ๆ เอาแบบเห็นชัด ๆ

แทคติกของ อูกัส มีแต่นี้ เพียงแต่ว่ามันเป็นแทคติกที่เข้าล็อค แถมเจ้าตัวยังชกได้ละเอียดทุกเม็ด และต่อยตามแทคติกได้แทบจะตลอดเวลา ซึ่งต้องให้เครดิตเจ้าตัวในเรื่องนั้น

แต่ด้วยความเคารพในตัวนักชกคิวบา เขาเหมาะสมทุกประการที่จะเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้ แต่หากคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็น แมนนี ปาเกียว ในวัยที่ถอยไปเมื่อสัก 15 ปีที่แล้ว เชื่อว่าคนที่ได้รับการชูมือคงไม่ใช่เจ้าตัว

แต่ในเมื่อเข็มนาฬิกามันไม่สามารถหมุนย้อนกลับไปได้ บางทีก็ต้องยอมรับความเป็นจริง และก้าวไปสู่สิ่งที่อาจจะ “สำคัญกว่า” ในชีวิตอย่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในปีหน้า แม้ว่า “มวย” จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ “เดอะ แพคแมน” มาเกือบทั้งชีวิต แต่บนสังเวียนสี่เหลี่ยมนั้น เขาไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกแล้ว

ในทางเดียวกัน แฟน ๆ ของ ปาเกียว ก็คงไม่อยากเห็นขวัญใจของพวกเขา ตกอยู่ในสภาพเดียวกับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอีก….
.
.
ผยองเดช