อย่าว่าแต่ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เอาแค่ทำอันดับไปเตะยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ให้ได้ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ยังจั่วลมวืดมาแล้ว 5 ปีติดต่อกัน ดังนั้นกล่าวได้ว่าเป้าหมายคว้าอันดับ 1 เมื่อจบฤดูกาล แทบไม่ต่างกับความฝันห่างไกลที่แฟนๆ อาร์เซนอล ไม่กล้าคิดถึง

แต่ฤดูกาลนี้พวกเขากำลังใกล้เคียงมากที่สุดแล้วกับการครอบครองแชมป์ลีกสูงสุดเป็นหนแรกนับแต่ฤดูกาล 2003-04

ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าฤดูกาลนี้ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งทาง แต่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้เริ่มสร้างความมั่นใจแก่สาวกอาร์เซนอลให้เริ่มคิดว่า “บางทีนี่อาจเป็นปีของพวกเขา”

ถ้าสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นแชมเปี้ยนคือรักษาฟอร์มให้สม่ำเสมอ สิ่งสำคัญที่สุดรองลงมาจึงอาจเป็นการเสริมทัพที่ตรงจุด นักเตะบางคนอาจเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์เปลี่ยนประวัติศาสตร์

จากนี้จนถึงสิ้นเดือนจะเป็นช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ซึ่งที่จริงแล้วอาร์เซนอลเคยซื้อนักเตะใหม่ช่วงนี้หลายราย เช่น โฆเซ เรเยส, อังเดร อาร์ชาวิน และ ธีโอ วัลคอตต์ แต่ 3 ปีหลังสุดของหน้าต่างมกราคม อาร์เซนอล ไม่ได้ควักเงินจ่ายสักปอนด์ ส่วนใหญ่เป็นการยืมตัว

แต่ซีซั่นนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป สื่อคาดว่ามิเกล อาร์เตตา ได้งบก้อนหนึ่งจากตระกูลโครเอนเกเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ แล้วใครคือเป้าหมายอันดับ 1?

เดิมทีอาร์เซนอลเคยสนใจผู้เล่นปีกอย่าง ราฟินญา ที่ย้ายไปบาร์เซโลนา หรือสนใจกองกลาง ดั๊กกลาส ลุยซ์ ของแอสตัน วิลลา แต่ปัญหาสำคัญเพิ่งมาเกิดเมื่อ กาเบรียล เชซุส กองหน้าตำแหน่งหมายเลข 9 บาดเจ็บต้องพักราว 3 เดือน

แฟนๆ จึงคาดว่าอาร์เซนอลจะเบนเป้าหากองหน้าตัวใหม่ แต่ “ดิ แอธเลติก” ยืนยันว่าอาร์เซนอล ไม่ได้เปลี่ยนใจ พวกเขายังต้องการกองหน้าตัวริมเส้นมาขับเคี่ยวกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี หรือ บูกาโย ซากา ขณะที่แดนกลางยังมี โธมัส ปาร์เตย์, โม เอลเนนีย์ ยิ่งช่วงหลังมีการใช้แบ๊กซ้ายเข้ามายืนตรงกลาง ทำให้พวกเขามองว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์เร่งด่วน

เป้าหมายอันดับ 1 จึงไม่ได้เปลี่ยน ยังเป็นตัวริมเส้นและล็อคสเป๊คไว้ที่ มิคาอิโล มูดริก ปีกทีมชาติยูเครนวัย 21 ปี แม้ข้อเสนอเบื้องต้นโดนปฏิเสธไปแล้ว แต่แนวโน้มยังน่าเชื่อว่าพวกเขาจะตกลงกันได้ในที่สุด

มูดริก อาจจะเป็นหนึ่งในเดิมพันครั้งสำคัญที่สุด ถ้าชนะเดิมพันครั้งนี้่ อาจหมายถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกในรอบ 19 ปีของอาร์เซนอล.

เฮียเอง