เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. 1(เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านร่วมกับผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมี พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาสังคม ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ร่วมประชุม

นายศานนท์ กล่าวถึงการจัดการปัญหาความเป็นระเบียบเรียบร้อย กรณีการแจกจ่ายอาหารของผู้ใจบุญบริเวณถนนราชดำเนิน เขตพระนคร ว่า ได้รับการร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีคนเร่ร่อนและไร้บ้านจำนวนมากใช้พื้นที่ทางเท้าริมถนนราชดำเนินเป็นที่พัก หลับนอน และรอคอยการมาแจกจ่ายอาหารจากผู้ใจบุญที่มาจอดรถริมถนนและแจกจ่ายแจกอาหารและสิ่งของสร้างความไม่เป็นระเบียบและผิดกฎจราจรเรื่องการจอดในที่ห้าม

ซึ่งที่ผ่านมา กทม. โดยสำนักงานเขตพระนคร ได้จัดจุดบริการแจกอาหารไว้จุดที่ 1 ที่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และจุดที่ 2 บริเวณตรอกสาเก แต่บางรายยังคงจอดรถริมถนนแล้วแจกอาหารโดยอ้างว่าใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ทำให้มีทั้งผู้ที่ไร้บ้านและไม่ไร้บ้านจริงมาเข้าแถวรอรับของเป็นจำนวนมาก และยังเปิดโอกาสให้มีผู้ฉวยโอกาสเข้ามาจัดการแทรกแซง และบางครั้งมีการแจกซ้ำซ้อนเกินความต้องการที่แท้จริง

นายศานนท์ กล่าวต่ออีกว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและคนไร้บ้านได้รับอาหารอย่างทั่วถึง ตลอดจนเข้าถึงการบริการและความช่วยเหลือด้านอื่นๆ จากภาครัฐ และผู้ร่วมบริจาค กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตพระนคร ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก พร้อมจุดจอดรถลำเลียงของสำหรับผู้ใจบุญที่ประสงค์จะมาแจกจ่ายอาหาร โดยนัดเวลาแจกวันละ 2 รอบ จุดที่ 1 รอบกลางวัน เวลา 12.00 น. บริเวณจุดบริการ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนราชินี ประมาณวันละ 150 ชุด จุดที่ 2 รอบเย็น เวลา 18.00 น. บริเวณจุดบริการ ตรอกสาเก ประมาณวันละ 200 ชุด

โดยในระยะแรก 2-3 สัปดาห์แรกนี้ สำนักงานเขตพระนครจะจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วมกับตำรวจ สน.ชนะสงคราม และ สน.สำราญราษฎร์ คอยดูแลให้คำแนะนำ พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ใจบุญที่มาแจกอาหาร พร้อมอำนวยความสะดวกให้ไปแจกยังจุดบริการที่กำหนด หลังจากนั้นจะมีการประเมิน และอาจยกระดับเป็นการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนในระยะต่อไป

สำหรับจุดบริการดังกล่าวนอกเหนือจากการแจกอาหารแล้ว ยังรองรับความต้องการจากคนไร้บ้าน เช่น การสงเคราะห์ด้านที่อยู่ สุขภาพ และอาชีพ และด้านอื่นๆ โดยความช่วยเหลือจากกรุงเทพมหานคร พม. มูลนิธิและองค์กรเครือข่ายต่างๆ รวมไปถึงเอกชน และผู้ใจบุญอีกด้วย.