กรณีแม่ของเด็กชายวัย 2 เดือน ที่ จ.กระบี่ ออกมาร้องเรียนว่า ลูกชายป่วยเข้าไปรับการรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ แล้วทาง รพ. ให้ยาน้ำมากิน แปะฉลากข้างขวดว่าเป็นแคลเซี่ยม ใช้รับประทาน ก่อนจะนำยามาป้อนให้ลูกกิน จนมารู้ทีหลังว่าเป็นยาคาลาไมน์ สำหรับใช้รักษาอาการโรคผิวหนังภายนอก ทำให้ลูกมีอาการป่วยอาเจียนรุนแรง และถ่ายเหลว จนนอนรักษาตัวอยู่นานเกือบ 1 เดือน ก่อนจะอาการทรุดหนักจนตัองเข้าห้องไอซียู ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

โวย รพ.ชุ่ย! ขวดคาลาไมน์ติดป้ายเป็นยากิน แม่ไม่รู้หยิบป้อนลูกจนโคม่า
 
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 65 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุข จ.กระบี่ นายแพทย์สุรัตน์ ตันติทวีวรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่ ได้แถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่า ขณะนี้เด็กมีอาการดีขึ้นตามลำดับ หลังเข้ารับการรักษาตัวใน รพ.กระบี่ ก็ได้ให้การดูแลสำหรับผู้ป่วยเด็กในห้องแยก (NICU) เพื่อที่จะให้การดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยผู้ป่วยไม่ได้อยู่ในอาการวิกฤติ รู้สึกตัวดี โดยแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ในการดูแลผู้ป่วยอาการหนัก เช่น การให้ออกซิเจน การใสท่อสวนปัสสาวะ เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ป่วยไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติแต่อย่างใด หากแต่แพทย์ต้องการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดเท่านั้น ล่าสุดอาการผู้ป่วยดีขึ้นตามลำดับ ทางแพทย์เตรียมให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร (นม) ตามปกติได้ในพรุ่งนี้

นายแพทย์สุรัตน์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ผู้ป่วยได้รับประทานยาคาลาไมน์ ที่ปรากฏในข่าว ทางศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลว่าปริมาณยาคาลาไมน์ที่ผู้ป่วยได้รับดังปรากฎในข่าวนั้น ไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤต ถึงแม้ผู้ป่วยจะเป็นเด็กก็ตาม

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ จะนำเรื่องเข้าพิจารณากรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข (มาตรา 41) เพื่อเยียวยาผู้ป่วยตามข้อเท็จจริงต่อไป และตรวจสอบมาตรการ การจ่ายยาตามโรงพยาบาลต่างๆ ให้เพิ่มความรอบคอบมากขึ้น.