ทั้งนี้ สำหรับในปี 2565 ที่ใกล้จะผ่านพ้นไป…ในปีนี้ก็มีแพทย์-มีผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “โรคแปลก-โรคที่ชื่อไม่คุ้นหูอยู่เป็นระยะ ๆ โดยวันนี้ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้พลิกแฟ้มประมวลข่าวคราวเกี่ยวกับโรคกลุ่มนี้มานำเสนอส่งท้ายปี ซึ่งโรคแปลก ๆ โรคที่ชื่อไม่คุ้นหูคนไทย ก็เป็นโรคที่น่าจะได้ทำความเข้าใจไว้เช่นกัน…

โรคกลุ่มที่ว่านี้ “มีทั้งทางกาย-ทางใจ”

และ “มีทั้งที่คุกคามวัยผู้ใหญ่-วัยเด็ก”

ทั้งนี้ “โรคแปลก-โรคที่ชื่อไม่คุ้นหู” หรือ “โรคหายาก-โรคปริศนา” ที่เคยมีกระแสออกมาในรอบปี 2565 นี้ ก็อย่างเช่น… โรคที่ทำให้เกิด “ป่วยประหลาด” คือมี เลือดออกทางตา หู จมูก ปาก ช่องคลอด ก้น และปนออกมาทางอาเจียนกับอุจจาระ ด้วย ซึ่งมีแพทย์ให้ข้อมูลอาการป่วยแบบนี้ไว้ว่าเป็นผลจาก “โรคเหงื่อออกเป็นเลือด” ที่ในไทยเคยมีรายงานการพบแค่ 5-6 รายเท่านั้น ซึ่งในทางการแพทย์จัดเป็น “กลุ่มโรคที่พบได้น้อย” หรือบางครั้งก็เรียกโรคกลุ่มนี้ว่า…

“โรคกำพร้า (Orphan disease)”

ถัดมา… “โรคมีกรดในเลือด” และ “โรคแอมโมเนียคั่งในเลือด” นี่ก็เป็นโรคในกลุ่มโรคหายาก โดยทั้ง 2 โรคดังกล่าวนี้…มักจะพบในทารกและเด็กเล็ก ซึ่งถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีก็มีโอกาสทำให้ “เสียชีวิต” ได้, “โรคเอสแอลดี” สำหรับโรคนี้ก็มักพบในกลุ่มทารก ทารกแรกเกิด ซึ่งผลจากโรคนี้คือทำให้หน้าตาเด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้เปลี่ยนไป และทำให้ตับ ม้าม หัวใจ โตผิดปกติ รวมถึงทำให้เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด เกิดการลดต่ำลง ตลอดจนทำให้เด็กที่ป่วยมีพัฒนาการถดถอยลง, “โรคพราเดอร์-วิลลี่” นี่ก็อีกโรคที่มักเกิดในทารกเช่นกัน ซึ่งโรคนี้จะส่งผลทำให้เด็กที่ป่วยมีพัฒนาการทางสติปัญญาค่อนข้างช้า

“โรคกล้ามเนื้อเสื่อมดูเชน” นี่มักพบในเด็กชายอายุ 3-5 ขวบ โดยจะมีอาการเดินขาปัด หรือล้มง่าย เมื่อล้มจะลุกขึ้นเองไม่ได้ และเมื่อโตขึ้นอาการก็จะรุนแรงขึ้นจนทำให้เดินไม่ได้, “โรคมาแฟน” โรคนี้มักจะพบในกลุ่มเด็กโต จะทำให้ข้อกระดูกบิดงอกว่าปกติ หรือกระดูกหน้าอกบุ๋มและโป่ง กระดูกสันหลังคด หรือทำให้ความยืดหยุ่นเส้นเลือดหัวใจผิดปกติ, “โรคเดินเซ” หรือ “โรคสมองน้อยเสื่อมจากพันธุกรรม” ผู้ป่วยมักจะมีอาการเดินเซ ก้าวเดินไม่มั่นคง ต้องกางขาตลอดเพื่อช่วยทรงตัว

นอกจากที่ระบุมาข้างต้นแล้ว…กับ “โรคหายากที่คุกคามเด็ก” ก็ยังมี… “โรคเพรนเดร็ด” ซึ่งผลจากโรคนี้ก็ไม่เบา คือจะทำให้ “หูหนวก” ตั้งแต่กำเนิด หรือทำให้การทรงตัวไม่ค่อยดี หรือมีอาการต่อมไทรอยด์โตหรือคอพอกแบบไม่เป็นพิษ, “โรคแองเจลแมน” ก็เป็นอีกโรคแปลกที่อาการจะเริ่มหลังเด็กทารกอายุได้ 6-9 เดือน โดยเด็กจะมีพัฒนาการที่ล่าช้า และมีปัญหาการเคลื่อนไหว-การพูด,โรคโครโมโซมผิดปกติ” นี่จะส่งผลทำให้ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้มีหน้าตาที่ดูแปลก และก็อาจจะทำให้หัวใจพิการ หรือเกิดลำไส้อุดตัน และมีการทำงานของไตที่ผิดปกติ …ซึ่งก็แน่นอนว่าภาวะต่าง ๆ เหล่านี้ล้วน “อันตราย”…

วงการแพทย์จึงต้องการ “ไขปริศนา??”

ทั้งนี้ นอกจาก “โรคหายาก-โรคปริศนา” ที่มักจะเกิดกับเด็ก โดยส่งผลเด่นชัดทางกาย ก็ยังมี “โรคชื่อแปลก” โรคที่ “เกี่ยวกับระบบสมอง-ระบบจิตใจ”ด้วย ซึ่งจากที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้เคยนำเสนอไว้ ก็มีอาทิ… “โรคพีทีเอสดี (PTSD)” ที่เป็นกลุ่มอาการทางจิตซึ่งมักพบในคนที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง-รุนแรงมา ซึ่งหากผู้ที่เกิดภาวะของโรคนี้ไม่ได้รับการบำบัดรักษา หรือปล่อยไว้นานไป ก็อาจจะลุกลามกลายเป็นโรควิตกกังวล-โรคซึมเศร้า จนอาจจะนำไปสู่การเกิดกรณีน่าเศร้าขึ้นได้ โดยมีรายงานว่า… ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษามีแนวโน้มที่จะพยายาม “ฆ่าตัวตาย” สูงกว่าคนปกติ 14 เท่า!!

“โรคเกลียดเสียง” หรือภาวะ “มีโซโฟเนีย (Misophonia)” นี่ก็เป็นอีกโรคที่ในปี 2565 เคยมีกระแสออกมา เคยเกิด “ดราม่า” ร้อนแรงขึ้นมา เกิดกรณีพิพาทด้วยเรื่องของ “เสียง” ขึ้นบ่อย ๆ ในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งโรคนี้มีอยู่จริง ๆ และก็มีคนที่ป่วยด้วยภาวะดังกล่าวนี้จริง ๆ, “โรคเสพติดเซ็กซ์เอาต์ดอร์” นี่ก็เคยอื้ออึงในปีนี้ เคยเกิดกระแสร้อนหลังมีคลิปเหตุการณ์ชายหญิงคู่หนึ่งเริงรักกันกลางแจ้ง-ในที่สาธารณะ โดยผู้ที่ก่อเหตุยอมรับว่า…เพราะมีแรงจูงใจ-เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับการโชว์การมีเพศสัมพันธ์ให้ผู้อื่นเห็น ที่ในทางจิตวิทยาระบุว่า เป็นกลุ่มของผู้ที่มีภาวะ “พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ (Exhibitionism)”

ยัง…ยังไม่หมด!! ยังมีภาวะอาการที่ในช่วงปลาย ๆ ปีนี้ก็มีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ออกมาให้ข้อมูล นั่นคือ… “โรคพีเอสเอส” หรือ “โพลิติคอล สเตรส ซินโดรม (Political Stress Syndrome : PSS)” โรคที่เกิดขึ้นจากภาวะ “เครียดสถานการณ์ทางการเมือง” ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของอารมณ์และจิตใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือผู้ที่ให้ความสนใจเรื่องราวความเป็นไปในทางการเมืองแบบเกาะติดใกล้ชิด จนทำให้เกิดตึงเครียดทางจิตใจจากเรื่องทางการเมือง โดยปลายปี 2565 นี้ก็ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะนี้หลังจากที่การเมืองไทยคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง …ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “โรคแปลก” ที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้เคยสะท้อนไว้ ด้วยมุ่งหวังให้สังคมไทยเท่าทัน “ผลลบ-ผลร้าย!!” …เช่นเดียวกับโรคแปลกอื่น ๆ ที่ได้ประมวลมาแต่ต้น…

จะผ่านปีเก่าสู่ปีใหม่ก็อย่าประมาทโควิด

ขณะที่ โรคภัยไข้แปลก” ก็ น่าพินิจไว้”

“รู้ไว้ใช่ว่า” …กับ “โรคปริศนาที่มีจริง!!”.