“บิ๊กบอส ONE” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประกาศขอเดินหน้าส่งต่อแรงบันดาลใจสร้าง “ฮีโร่” ผลักดันนักมวยไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลก ตามรอย “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” และ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ที่มุ่งมั่นต่อสู้จนประสบความสำเร็จกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของศึก วัน แชมเปียนชิพ ในปัจจุบัน โดยชี้ว่า “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เจ้าของแชมป์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวต (115 ป.) เป็นคนหนึ่งที่ในวัยเด็กมีชีวิตครอบครัวที่ลำบาก เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่โดนเพื่อนแกล้งเวลาไปโรงเรียน ทำให้ไป หดมวยไทยกับคุณพ่อ ด้วยความเป็นเด็กที่ขยัน ชอบต่อยมวยไทย เป็นคนที่น่ายกย่องทั้งด้านวินัย,ความมุ่งมั่น และความใจสู้ ก่อนจะเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาหญิงที่สามารถครองแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬามวยไทย และคิกบ็อกซิ่งได้สำเร็จในวัย 22 ปี ขึ้นแท่นเป็นนักมวยหญิงที่มีความเก่งกาจระดับต้น ๆ ของโลก ทำให้ชีวิต เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฝ่ามือมีทั้งชื่อเสียง, เงินทอง และเกียรติยศอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นคนหนึ่งที่ตนคาดหวังให้นำมรดกมวยไทยของประเทศไปสู่ผู้คนทั่วโลก
เช่นเดียวกับเส้นทางค้ากำปั้นของ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ที่เส้นทาวงมวยเกือบจะสิ้นสุดลงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่ได้รับโอกาสครั้งใหม่จาก ONE ให้ “น้องโอ๋” ขึ้นสังเวียนในศึก วัน แชมเปียนชิพ ระหว่างที่ทำงานเป็นครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์ ในประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่ “น้องโอ๋” จะเรียกฟอร์มดุดันกลับคืนมา ทำสถิติชนะรวด 9 ไฟต์ติดต่อกัน จนได้รับฉายา “ราชันฆ่าไม่ตาย” กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของศึก วัน แชมเปียนชิพ ที่มีแฟนคลับทั่วโล
“นักมวยในศึก ONE เปรียบเสมือนพี่น้องของผม ผมไม่ใช่เจ้านายของพวกเขา ความหมายของฮีโร่คืออะไร? คนที่หนีจากความยากจน ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง พวกเขาทำได้เพราะจิตใจที่ดี, ความขยัน, มีวินัย และความกล้าหาญ หากมีองค์ประกอบเหล่านี้ครบ ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ ทั้งหมดนี้คือคอนเซปต์ของวัน แชมเปียนชิพ #WeAreONE (เราคือหนึ่งเดียว) ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน ด้วยความรู้สึกผูกพันแบบพี่น้อง เราจะมีโอกาสโชว์ให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยสุดยอดแค่ไหน แต่ที่สำคัญเราต้องแสดงให้เห็นความจริงใจ” ชาตรี กล่าวทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น
ด้าน “น้องโอ๋” ยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 4 ปีที่เข้ามาชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ ควบคู่กับงานครูมวยที่อีโวลฟ์ จนทำให้ “น้องโอ๋” มีเงินเก็บมากกว่า 15 ล้านบาท และมีโอกาสเดินทางไปเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างประเทศอยู่เป็นประจำ โดยเมื่อไม่นานนี้ “น้องโอ๋” เพิ่งจะได้รับการติดต่อให้เดินทางไปร่วมงานสัมมนามวยไทยที่ประเทศอังกฤษ
“การชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ ไม่ได้ช่วยทำให้ผมมีฐานะที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ช่วยโปรโมตผมให้เป็นที่รู้จักของแฟนมวยทั่วโลก ในฐานะแชมป์โลก ONE ผมได้รับการติดต่องานจากทั่วโลก เมื่อไม่นานนี้ผมได้ไปร่วมงานสัมมนามวยไทยที่อังกฤษ 2 สัปดาห์ เป็นการเดินทางที่สนุกมาก ผมต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ หลังจากเป็นครูมวยที่สิงคโปร์นานถึง 7 ปี ผมมีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดศิลปะมวยไทยตามสไตล์ของผม เพื่อให้ทั่วโลกรู้จักมวยไทยมากขึ้น”
“ผมอยากขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่ช่วยสนับสนุน และผลักดันผมมาตลอดหลายปี ผมต้องขอบคุณพี่ชาตรี ทั้งการชวนผมไปทำงานที่ยิมอีโวลฟ์ และเป็นคนถามผมว่าอยากชกมวยอีกไหม เขาจะช่วยผลักดันให้ผมมีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้ผม และครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น”
