ทั้งนี้ เมื่อเครื่องบินประจำตำแหน่งของผู้นำจีนเข้าสู่น่านฟ้าของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบียส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นอารักขา และคอยประกบอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ซึ่งสีได้รับการต้อนรับจากคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลริยาด ขณะที่กองทหารเกียรติยศยิงสลุต 21 นัด

ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานเสด็จออก เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยในเอกสาร “ความตกลงการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน” ร่วมกับผู้นำจีน ด้านสำนักข่าวแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ( เอสพีเอ ) รายงานเพิ่มเติมว่า จีนและซาอุดีอาระเบียลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจ ( เอ็มโอยู ) รวมทั้งสิ้น 34 ฉบับ ครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับพลังงานสีเขียว เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบคลาวด์ การคมนาคม การก่อสร้าง และอีกมากมาย โดยข้อตกลงทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1 ล้านล้านบาท )

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานตรัสกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่พระบรมมหาราชวัง ในกรุงริยาด

บรรยากาศดังกล่าวเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดจากนานาประเทศ ซึ่งวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า “แตกต่างอย่างสิ้นเชิง” เมื่อเทียบกับการเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ด้านรัฐบาลวอชิงตันวิจารณ์การเยือนกรุงริยาดของผู้นำจีน “เป็นความพยายามขยายอิทธิพล” ของรัฐบาลปักกิ่ง และแสดงความเชื่อมั่นว่า ภารกิจของสี “จะไม่ส่งผลกระทบในทางใดต่อการดำเนินนโยบาย” ของสหรัฐในภูมิภาคตะวันออกกลาง

Reuters

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในเอ็มโอยูที่จีนกับซาอุดีอาระเบียลงนามร่วมกัน คือการให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เตรียมเป็นผู้พัฒนาระบบคลาวด์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการเพื่อการเรียนรู้ทางเทคโนโลยี ตามเมืองใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผู้สันทัดกรณีมองว่า เสมือนเป็น “การตบหน้า” สหรัฐ ที่เพิ่งยกระดับมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อหัวเว่ย และพยายามวิ่งเต้นไม่ให้ตะวันออกกลาง ใช้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน

ธงชาติจีนและธงชาติซาอุดีอาระเบีย เพื่อต้อนรับการเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย

ความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับซาอุดีอาระเบียเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทางเศรษฐกิจ ตลอด 10 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ ซาอุดีอาระเบียครองอันดับหนึ่ง ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของจีน ครองสัดส่วน 18% ของตลาด ด้วยสถิติการลำเลียงน้ำมันดิบเฉลี่ยวันละ 1.77 ล้านบาร์เรล ขณะที่จีนเป็นผู้ซื้อผลิตภัณฑ์เคมีและน้ำมันของซาอุดีอาระเบียรายใหญ่ที่สุด ด้วยสถิติ 25% และ 27% ตามลำดับ ส่วนมูลค่าการค้าระดับทวิภาคีอยู่ที่ 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3 ล้านล้านบาท ) เมื่อปี 2564

Reuters

แม้ความสัมพันธ์เบ่งบานอย่างเห็นได้ชัด แต่เอาเข้าจริงแล้ว ความร่วมมือระหว่างจีนกับซาอุดีอาระเบียในภาพรวม ยังคงเป็นไปอย่างจำกัดมาก แน่นอนว่าตัวแปรสำคัญคือสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลริยาดยังคงต้องพึ่งพาอาศัย “100%” ในด้านความมั่นคง ขณะที่นโยบายยุทธศาสตร์ของรัฐบาลวอชิงตันในตะวันออกกลาง “ขึ้นอยู่กับ” ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัฐบาลริยาด “เป็นสำคัญ”

ภารกิจการเยือนซาอุดีอาระเบียของสีในครั้งนี้ ส่งสัญญาณชัดเจนไปถึงสหรัฐ ว่ารัฐบาลปักกิ่งแทบไม่ให้ความสำคัญกับการขับเคี่ยวทางทหารและความมั่นคงกับอีกฝ่าย อีกทั้งจีนตระหนักดี เกี่ยวกับ “รากฐานอันมั่นคง” ของการก่อร่างสร้างความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐ

ในทางกลับกัน จีนจึงมุ่งเน้นการแสวงหาลู่ทาง เพื่อขยายขอบเขตอิทธิพลทางเศรษฐกิจ สอดคล้องกับการที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ดทรงมีพระประสงค์ บูรณาการเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียให้ลดการพึ่งพารายได้ จากการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเพียงอย่างเดียว และท่ามกลางภูมิศาสตร์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน การยึดติดกับสหรัฐเพียงประเทศเดียว ในระดับที่ค่าเงินริยัลซาอุดีอาระเบียผูกติดกับเงินดอลลาร์สหรัฐ “ไม่ปลอดภัยและยั่งยืน”.

ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, REUTERS