แม่น้ำปารานาไม่ได้เป็นเพียงแม่น้ำที่ยาวที่สุดของทวีปอเมริกา แต่ระหว่างความยาวถึง 4,880 กม. ไหลผ่าน 3 ประเทศ ได้แก่ บราซิล ปารากวัย และอาร์เจนตินา นั้น แฝงไว้ด้วยสิ่งประหลาดและเรื่องราวพิศวงอยู่ไม่น้อย

หนึ่งในปริศนาคาใจนักสำรวจบนแม่น้ำแห่งนี้ก็คือ เกาะบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่ชื่อว่า ‘ดิ อาย’ (The Eye หรือ El Ojo ในภาษาสเปน) เพราะไม่เพียงเกาะที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 120 เมตรแห่งนี้ จะมีรูปร่างเป็นวงกลมที่เกือบสมบูรณ์แบบ แต่มันยังเป็นเกาะลอยน้ำที่สามารถเคลื่อนไหวเองได้ด้วย โดยเป็นการหมุนไปมารอบ ๆ ผืนน้ำทรงกลมที่ล้อมมันไว้อีกที จนดูเหมือนวงกลมซ้อนกันสองวง ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า มันทำแบบนั้นได้อย่างไร มีเพียงทฤษฎีที่เทียบเคียงเอาจากลักษณะของเกาะลอยที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นทั่วโลกเท่านั้น

ผู้ที่ค้นพบเกาะแห่งนี้คือ เซอร์จิโอ เนอุสปิลเลอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอาร์เจนตินา เขาพบเกาะนี้โดยบังเอิญระหว่างหาโลเกชั่นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์แนวเอเลี่ยนและสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติ 

เดิมที เนอุสปิลเลอร์ วางแผนว่าจะใช้เกาะนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ แต่เมื่อเขากลับมาอีกทีก็พบว่า มันดูไม่เหมือนเดิมและเคลื่อนที่ได้! 

หลักฐานการพิสูจน์ว่า เกาะนี้ “หมุน” ไปรอบ ๆ ได้นั้น หาได้ไม่ยากจากภาพถ่ายทางอากาศจากระบบ Google Earth เมื่อนำภาพของเกาะดิ อาย จากต่างวันและเวลามาเทียบกัน จะเห็นได้ชัดว่า เกาะนี้มีการเคลื่อนตัวไปรอบ ๆ

สำหรับนักนิยมเรื่องลึกลับและมนุษย์ต่างดาว พวกเขาปักใจว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่จะต้องเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น (อาจเป็นฝีมือเอเลี่ยนจากนอกโลก) ด้วยรูปร่างที่กลมดิกและลักษณะการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมือนเกาะลอยอื่น ๆ โดยที่ยังหาสาเหตุไม่ได้

ด้านกลุ่มนักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อเรื่องลึกลับก็บอกว่า กรณีของเกาะที่ทั้งลอยทั้งหมุนได้นี้ มีคำอธิบาย โดยเทียบเคียงจาก “เกาะลอยได้” ในพื้นที่อื่นทั่วโลก ซึ่งปรากฏในหลายประเทศ เช่น ฟินแลนด์ ตุรกี อิตาลี เซอร์เบีย โรมาเนีย อินเดีย ฯลฯ รวมถึงเกาะลอยที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย เช่นที่ปรากฏในประเทศเปรู

เกาะลอยได้เหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากพืชน้ำที่เกาะกลุ่มกันแล้วโดนกัดเซาะจนหลุดจากฝั่ง ลอยออกสู่กลางน้ำ เมื่อเวลาผ่านไป พืชเหล่านี้ก็เติบโตและขยายพื้นที่ไปเรื่อย ๆ รากของกลุ่มพืชที่ลอยออกไปไกลจนไม่สามารถหยั่งถึงก้นทะเลสาบหรือแหล่งน้ำเหล่านี้ จะใช้ออกซิเจนที่ดูดจากรากของมันช่วยพยุงตัวเพื่อให้มันอยู่รอดได้กลางน้ำ จึงกลายสภาพเป็นเกาะลอยได้

อย่างไรก็ตาม คำอธิบายเหล่านี้ อาจใช้ได้สำหรับลักษณะการลอยตัวของเกาะ แต่ยังไม่สามารถใช้อธิบายลักษณะการเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ วงน้ำที่มันตั้งอยู่ได้ 

บันทึกภาพถ่ายตลอดเวลาเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 เป็นหลักฐานบ่งชี้ได้ว่า เกาะดิอาย มีมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ตัวผู้กำกับเนอุสปิลเลอร์เอง ก็ยังติดใจความพิศวงของเกาะนี้ เขาหาทางกลับมาสำรวจเกาะอีกครั้ง พร้อมกับทีมวิศวกรเพื่อหาทางพิสูจน์ว่า มันคือเกาะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจริงหรือไม่

ในปี 2559 เนอุสปิลเลอร์ พยายามหาทางระดมทุนเพื่อการสำรวจเกาะดิอาย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.74 ล้านบาท) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ 

เกาะลอยน้ำสุดประหลาดที่เคลื่อนที่ได้เองแห่งนี้ จึงยังคงเป็นปริศนาในใจนักสำรวจกันต่อไป.

แหล่งข้อมูล : earthlymission.com

เครดิตภาพ : Parque Nacional Ciervo de los Pantanos