มีการศึกษาว่า การออกกำลังกายสามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ โดยเฉพาะในกลุ่มชายอายุมาก จากรายงานของวารสารแพทย์ด้านเพศศาสตร์ (The Journal of Sexual Medicine (JSM))รายงานว่าได้มีการศึกษาในคนไข้จำนวน 674 คน โดยมีอายุระหว่าง 45–70 ปี ซึ่งรวมถึงการตรวจทางระบบทางเดินปัสสาวะ ประวัติ การรักษาพยาบาล และการตรวจระดับฮอร์โมนชายเทสโทสเตอโรนและระดับโปรตีน sex hormone–binding globulin (SHBG) ในเลือด และทำแบบสอบถามคะแนนทางเพศ (International Index of Erectile Function : IIEF-5) 5 ข้อ เช่นเดียวกับแบบประเมินการออกกำลังกาย พีบีสกอร์ ซึ่งปริมาณการออกกำลังกายจะคำนวณเป็นกิโลจูลต่อสัปดาห์ โดย 4.2 กิโลจูลเท่ากับ 1 กิโลแคลอรี

ผลการศึกษาพบว่า คะแนนทางเพศ ( IIEF-5) เพิ่มขึ้น จากการศึกษานี้สรุปได้ว่าความสามารถในการแข็งตัวขององคชาตสามารถรักษาไว้ให้คงอยู่กับเราได้ด้วยการออกกำลังกายเล็กน้อยอย่างสม่ำเสมอ โดยการออกกำลังกายที่ใช้พลังงานเล็กน้อยอย่าง 1,000 กิโลแคลอรีต่อสัปดาห์ก็สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้แล้ว โดยถ้ามีการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอีก ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้มากขึ้น โดยออกกำลังกายได้มากถึง 4,000 กิโลแคลอรีต่อสัปดาห์

แพทย์สามารถใช้ความจริงนี้ในการกระตุ้นให้คนไข้มีการออกกำลังกายและปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นได้ สมรรถภาพทางเพศหากรู้แนวทางการป้องกันก็จะช่วยให้บุคคลนั้นสามารถร่วมเพศได้อย่างมีความสุขแม้ว่าอายุจะมากขึ้นก็ตาม ชายสูงอายุที่พลังทางเพศดีได้สืบประวัติแล้วอยู่ในกลุ่มนักวิ่งสวนลุมทุกเช้า บ้างก็กระจายอยู่ในสวนจตุจักร และนักกอล์ฟ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนมากจะละเว้นเหล้า เบียร์ บุหรี่ ของมัน ของหวาน คะแนนทางเพศจะเกิน 20 ทุกคน โดยมีความถี่ทางเพศสัมพันธ์จะพบอยู่ในระดับ
2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วพบว่าสามารถช่วยให้ลดความเครียดได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่แข็งแรงทางเพศ

ดังนั้นเรื่องเพศต้องการการออกกำลังที่สม่ำเสมอยิ่งออกกำลังบ่อยก็ยิ่งแข็งแรงเท่าตัว กลุ่มสูงอายุ 80-90 ที่สนใจความแข็งแรงทางเพศก็จะต้องมาฝึกการออกกำลังบริหารกล้ามเนื้ออวัยวะเพศเพิ่มโดยเฉพาะวันละ 10 นาที ก็จะมั่นใจร่วมเพศได้แข็งแรงนาน 30 นาที แข็งแรงกว่าวัยหนุ่ม 30 ปีที่ดื่มเหล้า ทานอาหารไม่เคยยับยั้งเลย ถึงจะหนุ่มแต่ก็แพ้วัย 80-90 ปี อย่างนึกไม่ถึง

—————
ดร. อุ๋มอิ๋ม