ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ ยืนยันมีแผนจะผลักดันให้นักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์ ผู้ที่เป็น “สุดยอดของที่สุด” ได้รับค่าตัว 10 ล้านบาทต่อไฟต์ ในศึกวันลุมพินี ที่จะประเดิมนัดปฐมฤกษ์ ในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. 66 โดยจะทำได้ตามแผนภายใน 2 ปี

บิ๊กบอสวัน กล่าวว่า “ค่าตัวนักมวยที่จะขึ้นชกในศึกวันลุมพินี หากเทียบกับเวทีมวยอื่นๆ ในประเทศไทย จะสูงกว่า 30-50 เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ โอกาสที่จะได้ขึ้นชกในเวทีระดับโลกของ วัน แชมเปียนชิพ ต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้”

นายชาตรี กล่าวต่อไปว่า ถึงเป้าหมายที่จะยกระดับชีวิตนักมวยไทย ให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก และได้รับค่าตัวที่สมเหตุสมผล เหมือนกับ “ดิไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลกวันมวยไทย รุ่นฟลายเวต ได้รับในปัจจุบัน

“ภายใน 1-2 ปี จะมีแชมป์หรือนักมวยคนใดคนหนึ่งที่ขึ้นชกในศึกวันลุมพินี โดยแชมป์โลกซูเปอร์สตาร์ชาวไทย ผู้ที่เป็นสุดยอดของที่สุด จะได้รับเงินค่าตัวไฟต์เดียว 10 ล้านบาท นั่นคือแผนที่ผมวางเอาไว้ เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ผมจะทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์จริงๆ ทั่วโลก ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์แค่ในไทยอย่างเดียว”

นายชาตรี กล่าวต่อว่า เงินค่าตัวของศึกวันลุมพินี จะสูงสุดในประเทศไทยแน่นอน และจะขึ้นเรื่อยๆ เหมือน รถถัง ที่ตอนชกกับวัน ไฟต์แรกได้ค่าตัวประมาณ 4-5 แสนบาท ตอนนี้ รถถัง รับค่าตัว 4-6 ล้านบาทต่อไฟต์ แต่ในอนาคตไม่รู้ว่า รถถัง จะเป็นคนแรกที่ได้รับค่าตัว 10 ล้านบาทหรือไม่ เมื่อถึงเวลาที่วันเติบโตขึ้น

“ผมพยายามให้ทุกคนขึ้นไปด้วยกัน เราต้องจริงใจในการสร้างฮีโร่ และการจะแสดงความจริงใจอย่างหนึ่ง คือการให้เงินค่าตัวนักมวยอย่างเหมาะสม”

นอกจากนี้ “ชาตรี” เปิดเผยถึงไฮไลต์สำคัญของในช่วงปีแรกของศึกวันลุมพินี หลังจากนัดปฐมฤกษ์ วันที่ 20 ม.ค. 66 จะเป็นการป้องกันตำแหน่งของ “ราชันฆ่าไม่ตาย” น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว แชมป์โลกวันมวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (145 ป.) กับผู้ท้าชิงชาวรัสเซีย “อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” โดยจะเริ่มต้นถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD ในเวลา 20.30 น. เป็นต้นไป และจากนั้น จะมีรายการใหญ่ที่นำซูเปอร์สตาร์จาก วัน แชมเปียนชิพ มาขึ้นชกที่ศึกวันลุมพินี โดยปีหนึ่งจะมีทั้งหมด 4 ครั้ง