@@…ช่วงเวลานี้การเมืองนอกสภาร้อนแรงไม่เว้นแต่ละวัน ม็อบจัดกิจกรรมโหมโรงไล่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ออกจากการบริหารประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ในการเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย ด้วยยุทธวิธีต่างๆ และทุกครั้งก็จบลงด้วยความรุนแรง ที่ล่าสุดมีเด็กอายุ 14-15 ปี ถูกกระสุนยิงเข้าที่คอ ปางตาย อาการโคม่า ซึ่งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์ให้ “รัฐบาลเรือเหล็ก” ถูกกระหน่ำซ้ำปั่นสถานการณ์เพิ่มดีกรีความร้อนแรง เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน ดังนั้นต้องจับตาดูว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ไป พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้เกมอย่างไร เพื่อไม่ให้สถานการณ์ประเทศเลวร้ายไปมากกว่านี้

@@…ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านก็รอจังหวะฟาด โดยใช้กลไกลทางสภา ด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 พร้อมล็อกเป้าซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ และพ่วง 5 รัฐมนตรี ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

@@…เมื่อดูเนื้อในการอภิปรายฯแล้วใช้ถ้อยคำที่หนักหน่วง กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ มีพฤติการณ์ ค้าความตาย, ฉ้อฉลปิดบังอำพรางจัดหาวัคซีนไม่โปร่งใส, กอบโกยผลประโยชน์บนซากศพและคราบน้ำตาประชาชน, เป็นโรคโอหังคลั่งอำนาจและไร้ความสามารถเป็นผู้นำประเทศ ถึงแม้ฝ่ายค้านออกมาบอกว่า การอภิปรายฯ ครั้งนี้ฝ่ายค้านไม่ได้หวังผลคะแนนโหวต แต่หวังผลในการเปิดแผลรัฐบาลให้มากขึ้น “บิ๊กตู่” ไม่มีความชอบธรรมในการบริหารแผ่นดินอีกต่อไป งานนี้หวังผลให้ประชาชนได้เห็นธาตุแท้ของซาตานที่มีอยู่ภายในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใจดำไม่เห็นใจในความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจะทนดูประชาชนตายไปอีกเท่าไหร่

@@…แต่งานนี้ก็ต้องมาพิสูจน์กันว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านมี จะมีน้ำหนักสมราคาคุย สามารถเพิ่มระดับวิกฤติศรัทธาให้รัฐบาลจนอยู่ไม่ได้จริงหรือไม่ เพราะเวลานี้ฝ่ายค้านเองก็มีความหวาดระแวงขบเหลี่ยมกันเอง โดยพรรคก้าวไกลออกมาแพลมว่าที่พรรคเพื่อไทย ทำชื่อ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ หลุดโผการอภิปรายฯ นั้นอาจจะมี บิ๊กดีล แบบดีลลับกัน เกิดขึ้น

@@…ร้อนถึงพี่ “พี่โทนี่ วู้ดซัม” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนสติเด็กอย่าใจร้อน การเมืองใจร้อนไม่ได้ต้องมียุทธศาสตร์ พรรคร่วมทำงานร่วมกันต้องใจเย็นๆ พรรคก้าวไกล ถ้าจะทำงานร่วมกันเพื่อประชาธิปไตยแล้ว อย่าใจร้อน ทะเลาะกันทำไม พวกเดียวกันทั้งนั้น ภารกิจคือต้องทำงานร่วมกันต่อสู้เพื่อได้ประชาธิปไตย ไม่ใช่ด่า พล.อ.ประวิตร หรือ ร.อ.ธรรมนัส แล้วจะได้ประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคเก่ากว่า 20 กว่าปี ก้าวไกลไม่นานนี้ culture ต่างกัน ในที่สุดคือ ต้องทำงานร่วมกัน อย่าทะเลาะกันเป็นเด็กไปได้ โตแล้ว

@@…เห็นแล้วก็น่าคิดสำหรับเรื่อง บิ๊กดีล อนาคตทางการเมืองไทย สถานการณ์ประเทศจะเปลี่ยนไปแบบไหน ต่อจากนี้คงไม่นานก็น่าจะได้เห็นกัน!!

@@…จบเรื่องร้อนๆ มาดูกิจกรรมจากเหล่าทัพกันบ้าง..เริ่มจากกองทัพบก สนับสนุน สธ.รับมือโควิด โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบนโยบายให้หน่วยทหารทั่วประเทศ สนับสนุนกำลังพล, ยานพาหนะ รวมทั้งอาคารสถานที่ ให้กับ สธ. แต่ละจังหวัด ดูแลประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยทหารของกองทัพบก ได้ปรับแผนสอดรับตามห้วงระยะเวลา ล่าสุดที่พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และบางพื้นที่ยังไม่ได้รับการคัดกรองคัดแยกผู้ติดเชื้อ ทำให้อาจเสี่ยงต่อการเกิดการแพร่ระบาดเฉพาะกลุ่ม (Cluster) ได้

@@…จึงสั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศปรับอาคารสโมสรในค่าย เป็นโรงพยาบาลสนามศูนย์คัดกรอง ที่บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนจากกองทัพบก ผ่านทางศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด กองทัพบก โทร. 0-2092-7766 (30 คู่สาย) และ 0-2270-5685-9 หรือผ่าน Line ID : @covidtv5hd1 รวมทั้งผ่านจุดบริการประชาชนทั้ง 69 จุด ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือติดต่อโรงพยาบาลทหารใกล้บ้านท่าน ได้ตลอด 24 ชม. ในทุกช่องทาง     

@@…ไอเดียร์สุดเจ๋ง..พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้เห็นความสำคัญของการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ต้องสวมชุด PPE หรือ Personal Protective Equipment “ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล” เป็นชุดพิเศษที่ใช้สวมใส่ปกปิดร่างกาย เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อโรค ช่วยป้องกัน และ ลดโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 ที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้สวมใส่เมื่อต้องใกล้ชิด หรือดูแลผู้ป่วยติดเชื้อและการต้องสวมใส่ชุด PPE เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดความร้อนสะสม หากร่างกายไม่สามารถปรับลดอุณหภูมิได้ เป็นสาเหตุให้เกิดอาการเพลียแดด หรือทำให้เหนื่อยง่ายและหมดแรง และยิ่งต้องมีการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดอาการลมแดด หรือ Heat Stroke ตามมาได้ ซึ่งก็มีให้เห็นในหลายๆ ครั้ง ที่เจ้าหน้าที่ต้องล้มตึงทั้งยืน เพราะความร้อนจากการสวมใส่ชุด PPE

@@…จึงให้จัดทำ “ชุดผ้ายืดสะท้อนน้ำ” นวัตกรรมลดความร้อน ปรับอุณหภูมิชุด PPE สำหรับการปฏิบัติงานของบุคลาการทางการแพทย์ภายใต้ชุด PPE ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานยังโรงพยาบาลสนามได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ได้ทดลองใช้มาแล้วกว่า 5 เดือน เจ้าหน้าที่ที่ได้สวมใส่ต่างบอกว่าช่วยลดความร้อนได้ดี เพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติงานได้มากขึ้น

@@…ภารกิจส่งคนกลับบ้าน…พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ในพื้นที่จ.พิษณุโลก ร่วมสังเกตการณ์ในการนำพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกและพิจิตร จำนวน 25 ราย กลับภูมิลำเนาบ้านเกิด ทางอากาศโดย เครื่องบินลำเลียงแบบ 295 ในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ทางอากาศไปส่งยังภูมิลำเนาทั่วประเทศ สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินลำเลียงแบบ 295 ครั้งนี้ เน้นการส่งป่วยไปยังจังหวัดพื้นที่ห่างไกล จากกรุงเทพฯ และพื้นที่ต้องใช้เวลานานหากต้องเดินทางด้วยรถยนต์

@@…พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร.พร้อมด้วยนางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง โดยมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อคนไข้ ซึ่งปัจจุบันผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้น ณ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

@@…พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานมอบถุงยังชีพให้กับนักเรียนโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

ผู้พันบานเย็น