เกือบ 3 สัปดาห์แล้วที่นักข่าวทำเนียบเฝ้าวนเวียนยิงคำถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทิ้งจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือไม่แทบจะ เช้า กลางวัน เย็น ทั้งที่รู้แก่ใจพันเปอร์เซ็นต์ไปแน่ แค่รอดูด ส.ส. ให้มากพอ แม้เป็น “play maker” ที่สำคัญต่อทิศทางการเมืองไทยอย่างยิ่ง แต่คำตอบมีแต่พลิ้วไปมา รอหลังเอเปค รอหลังปีใหม่ จะรีบไปไหน จนสุดท้าย “กำลังพิจารณาอยู่” นักข่าวทำเนียบก็ยังจะเซ้าซี้ไม่เลิก เหตุผลคือ ประชาชนอยากรู้ จริงหรือใครอยากรู้ ประชาชนไม่อยากรู้เลย บอกตรง ๆ รำคาญเบื่อโคตร ๆ กับคำถามปิงปองสั่ว ๆ และคำตอบศรีธนญชัยที่ดูถูกประชาชนมากกว่า คงคิดว่าประชาชนไม่ได้กินข้าว

ก็รู้กันอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยมีประชาชนในหัวใจ แม้จะทำมือบอกรักทุกครั้ง บอกผิดกาลเทศะก็บ่อยครั้งเช่นกรณีจ่าคลั่งที่โคราช คนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ทำไมต้องตอบคำถาม จะไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ในเมื่อมาด้วยการยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ ใช้ ม.44 จัดการทุกคนที่เห็นต่างมา 5 ปีเต็มและต่อเนื่องจนบัดนี้ (แม้เลิก ม.44 ไปแล้ว) แต่องค์กรอิสระ เครื่องจักรสังหารยังอยู่ครบ ระบอบ 3 ป. ก็แข็งแกร่ง ส่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ทำพรรค พปชร. กวาดต้อนนักเลือกตั้งแลกคดีเข้าคอกเป็นนั่งร้าน ทำฟาร์มงูเห่า ปลูกสวนกล้วย แจกอย่างทั่วถึง ร่างรธน. อัปยศสืบทอดอำนาจอนุรักษนิยมอย่างเป็นระบบ มี ส.ว.ลากตั้งที่เลือกมากับมือเป็นพรรคใหญ่สุด 250 คน ขณะคนไทย 35 ล้านคน เลือก ส.ส. ได้แค่ 500 ต่อให้เลือกตั้งใหญ่ปีหน้า บัตร 2 ใบหาร 100 ส.ว.ลากตั้ง 250 คนก็ยังจะทิ้ง “มรดกบาป” เลือกนายกฯ ไว้อีก แล้วทำไม พล.อ.ประยุทธ์ต้องแคร์ประชาชน

ความคิดของ พล..ประยุทธ์ คือความคิดที่เห็นว่า ตนเองเป็นผู้ปกครอง ไม่ได้เห็นว่าตัวเองเป็นผู้รับใช้ประชาชน เห็นประชาชนเป็นนาย ไม่เคยคิดว่ากินเงินเดือนภาษีของประชาชนแม้แต่น้อย ตรงข้ามที่มาเป็นนายกฯ ก็ถือเป็นบุญคุณมากแล้ว ใครว่า พล..ประยุทธ์ เปลี่ยนไป การสั่งปราบม็อบต้านเอเปคอย่างรุนแรงใช้กระสุนยาง คือ บทพิสูจน์ว่า ไม่จริง

สื่อทำเนียบเคยถามใจตัวเองมั้ยว่า คนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้เกียรติสื่อมากน้อยแค่ไหน ไม่พอใจคำถามแทงใจดำของ เจ๊ยุ ยุวดี ธัญญศิริ ก็ใช้อำนาจสั่งห้ามเข้าทำเนียบ

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังออกมาสั่งสอนสร้างวาทกรรม ต้องทำการเมือง ไม่ใช่เล่นการเมือง ต้องทำการเมืองให้ถูกต้อง สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม ทำงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรม วันนี้มี 3 อำนาจ บริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ แล้วจะเล่นการเมืองได้อย่างไร ขณะพรรค รทสช.กำลังเร่งเครื่องดูด ส.ส.ให้มากพอเพื่อปูพรมแดงให้ตัวเองทำ “แฮตทริก” เป็นนายกฯ สมัยที่ 3 แม้จะอยู่ได้อีก 2 ปี ครึ่งเทอม ก็ยังจะไปต่อ ไม่นับว่า เส้นทางสู่อำนาจของตัวเองช่างตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับวาทกรรมนี้

มันชัดแล้วว่า ระบอบ 3 . ยังดำรงเป้าหมายสืบทอดอำนาจมั่นคง แค่เปลี่ยนวิธีเข้าสู่อำนาจใหม่ ปรับลู่วิ่งหาม มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หวังขึ้นแป้นรับเหรียญทองอีกครั้ง

เหนืออื่นใด เค้ากำลังจะเล่นเกมใหม่ “เกมยุบพรรคจากกรณี ตู้ห่าว ซื้อบ้าน 5 หลัง” เพื่อสกัดแลนด์สไลด์ “เพื่อไทย” ทั้ง พี่ศรี พี่สนธิญาณ พี่เรืองไกร รับลูกไปยื่น กกต. เรียบร้อย อย่าคิดว่าไม่กล้า ยุบมาเยอะแล้ว ไม่เห็นมีไร แผ่นดินยังสงบ ไม่ลุกเป็นไฟ ม็อบเสื้อแดง ม็อบ 3 กีบ มีอีก ก็ปราบอีก แช่แข็งประเทศต่ออีก 4 ปี ใครเดือดร้อน เมื่อระบอบ 3 ป. ไม่ได้เดือดร้อนด้วยแม้แต่น้อย

แต่นักข่าวทำเนียบยังติดหล่มคำถาม “ปิงปอง” ไม่เลิก ประชาชนไม่อยากรู้ เลิกถาม ตื่นเสียทีเถอะ

————————
ดาวประกายพรึก