สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.เกี่ยวกับความคืบหน้าหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.2 แมกนิจูด ในภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงใต้ของเฮติ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา และนายกรัฐมนตรีอาเรียล อ็องรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลานาน 1 เดือนนั้น 
เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเฮติพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว ภายใต้ซากปรักหักพัง ที่เมืองเลส์ คาเยส์
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเฮติ รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากธรณีพิบัติภัยครั้งนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,189 ราย และสถิติผู้ได้รับบาดเจ็บสะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 12,000 คน โดยพื้นที่ได้รับความเสียหายหนักหน่วงที่สุด คือเมืองเลส์ คาเยส์ ซึ่งประชาชนมากกว่า 100,000 คน ยังคงรอรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่ยังแทบเข้าไม่ถึงพื้นที่ ด้วยข้อจำกัดด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนั้น เมื่อต้นสัปดาห์นี้ยังมีพายุโซนร้อน "เกรซ" พาดผ่าน สร้างความเสียหายให้กับโรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายแห่ง
ภาพถ่ายจากมุมสูงทำให้เห็นสภาพความเสียหายของบ้านเรือน และท้องถนน ในเมืองแรมเป ทางตอนใต้ของเฮติ
แม้มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากภายใต้ซากปรักหักพังได้อย่างน้อย 34 คน แต่ความหวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมริบหรี่ลงทุกขณะ
นอกจากธรณีพิบัติครั้งนี้ ซึ่งมีความรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่แผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 แมกนิจูด ใกล้กับกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อปี 2553 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000 ราย เฮติยังคงเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ระบุว่า ยังไม่มีวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว และการเมืองซึ่งไร้เสถียรภาพ นับตั้งแต่เกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีโฌเวเนล โมอิส เมื่อต้นเดือนที่แล้ว.

เครดิตภาพ : AP