@@@@ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 ณ อาคารศาลาไทย โดยนางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราเป็นประธานร่วมกับหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยในเครือรัฐออสเตรเลีย ในการนี้ นาย Ian McConville อธิบดีกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย นาย Luke Gosling OAM, MP สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมือง Solomon ดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ในฐานะประธานกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย-ออสเตรเลีย ดร. Ali M. Kraishan เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรจอร์แดนและคณบดีณะทูตประจำกรุงแคนเบอร์รา นาย Brendan Smyth, Commissioner for International Engagement ACT พลตรี Stephen Jobson, AM, CSC, Commander Aviation Command, ผู้แทน Chief of Defense Force ข้าราชการระดับสูงจากหน่วยงานต่าง ๆ ของออสเตรเลีย คณะทูตานุทูต อดีตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย รวมทั้งนักวิชาการ ผู้แทนภาคธุรกิจและชุมชนไทยเข้าร่วม

ในโอกาสดังกล่าว อธิบดีกรมพิธีการทูตฯ ได้กล่าวและเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติร่วมดื่มถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชนชาวไทย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวและเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติร่วมดื่มถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งเครือจักรภพและประชาชนชาวออสเตรเลียด้วย เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์สดุดีและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อนำมาซึ่งความผาสุกให้แก่พสกนิกรชาวไทยและพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ รวมถึงการเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ตลอดจนสหประชาชาติยังได้ประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลกเพื่อเทิดพระเกียรติอีกด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงสานต่อพระราชปณิธานด้านการพัฒนาด้วยการสืบสาน รักษา ต่อยอด ด้วยการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทยกับออสเตรเลียที่มีความแน่นแฟ้นทุกด้านในระดับทวิภาคีภายใต้กรอบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนเป็นมิติที่สำคัญยิ่ง และปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญเนื่องจากเป็นโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ออสเตรเลียในวันที่ 19 ธันวาคม ศกนี้ โดยภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ผู้แทนระดับต่าง ๆ จากหลายแวดวงของทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนการเยือนกันอย่างต่อเนื่องเพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเยือนออสเตรเลียของรองนายกรัฐมนตรีของไทยและการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเพื่อฉลองวาระสำคัญในปีนี้และการเป็นประธานเอเปคของไทยในปี 2565

ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ พลเอก David Hurley ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในเครือรัฐออสเตรเลียกรุณาบันทึกคลิปวีดิทัศน์ส่งข้อความพิเศษโดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับออสเตรเลียและความใกล้ชิดกันของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยกับชาวออสเตรเลีย ตลอดจนความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในมิติต่าง ๆ รวมถึงการครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในปีนี้ ภายในงานได้มีการบรรเลงดนตรีไทยโดยนายเจตติพงษ์ ปิงวงศ์ศา ประธานสมาคมดนตรีไทยและนาฏศิลป์แห่งประเทศออสเตรเลีย สาขาแคนเบอร์รา การฉายวีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์ศักยภาพประเทศไทยและส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การจัดเลี้ยงอาหารคาวหวานไทย และการมอบผลิตภัณฑ์อาหารด้วยความอนุเคราะห์สนับสนุนจากบริษัทนำเข้าอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ไทยและของที่ระลึกไทย

การจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 ณ อาคารศาลาไทย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565

@@@@ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราได้จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายศิระ สว่างศิลป์ อุปทูตเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้และพิธีถวายบังคม โดยได้จุดเทียน วางพานพุ่มดอกไม้ที่โต๊ะหมู่เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และถวายบังคมหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา โดยมีหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย ข้าราชการ พร้อมคู่สมรส ณ กรุงแคนเบอร์รา เข้าร่วมพิธีฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน และในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. อุปทูตได้เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทานเพื่อถวายพระราชกุศล ณ วัดธัมมธโร กรุงแคนเบอร์รา โดยมีหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยในกรุงแคนเบอร์รา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่พร้อมคู่สมรสและประชาชนเข้าร่วมด้วย

การจัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ พิธีถวายบังคม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรและถวายสังฆทานเพื่อถวายพระราชกุศล

@@@@ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ และทีมประเทศไทย ณ นครซิดนีย์ ได้ร่วมกันจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ณ The Mint นครซิดนีย์ มีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย ผู้แทนภาคส่วนต่างๆ ของชุมชนไทย คณะกงสุลต่างประเทศประจำนครซิดนีย์ ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของรัฐนิวเซาท์เวลส์ นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ และ The Hon. Christopher Rath สมาชิกสภานิติบัญญัติ ได้กล่าวสุนทรพจน์น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ และโอกาส 70 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ตลอดจนความแข็งแกร่งของชุมชนไทยในนครซิดนีย์ ในงานมีการแสดงนาฏศิลป์ และดนตรีไทยจากชุมชนไทยในนครซิดนีย์ และการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์

งานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ณ The Mint นครซิดนีย์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565

@@@@ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรและน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 ณ วัดพุทธรังษี แอนนันเดล โดยมีกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เป็นประธานในพิธี และมีหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยในนครซิดนีย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และชุมชนไทยเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว กงสุลใหญ่ฯ ได้ถวายพานพุ่มดอกไม้หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์​ จากนั้น กงสุลใหญ่ฯ และคณะ ถวายเครื่องไทยธรรมและทอดผ้าไตรแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์สดับปกรณ์ และอนุโมทนา ในโอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรและน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 ณ วัดพุทธรังษี แอนนันเดล

@@@@ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสายการบินไทยแอร์เอเชียจัดงานแถลงข่าว “ททท. & ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซิดนีย์-กรุงเทพฯ เปิดตัว: ค้นพบประเทศไทย” เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียเข้าประเทศมากขึ้น เปิดตัวเส้นทางใหม่ล่าสุดที่เชื่อมนครซิดนีย์และเมลเบิร์นกับสนามบินสุวรรณภูมิของกรุงเทพฯ ท่าอากาศยานไทย เริ่มแล้ววันนี้ เที่ยวบินระหว่างซิดนีย์และกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) มีให้จองในราคาเริ่มต้นเพียง 429 AUD ต่อเที่ยว และเมลเบิร์น – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) พร้อมให้จองในราคาเริ่มต้นเพียง 439 AUD ต่อเที่ยว โดยเฉพาะสมาชิก AirAsia Super App จองตอนนี้ที่แอพ AirAsia Supper สายการบินให้บริการบินตรงไปซิดนีย์ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ในวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ และเสาร์ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม และเริ่มบินตรงเมลเบิร์น-กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสายการบินไทยแอร์เอเชียจัดงานแถลงข่าว “ททท. & ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซิดนีย์-กรุงเทพฯ เปิดตัว: ค้นพบประเทศไทย” บินตรงไปซิดนีย์ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม และเริ่มบินตรงเมลเบิร์น-กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565

@@@@ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ และ น.ส. ศิถี ตันบุนเต็ก ผู้อำนวยการบีโอไอ ณ นครซิดนีย์ ได้ให้การต้อนรับคณะจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร นำโดย ผศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดี ในโอกาสเยือนออสเตรเลีย เพื่อสานต่อโครงการความร่วมมือทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในโอกาสนี้ คณะได้แจ้งถึงการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรม ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตวิศวกรเพื่อป้อนตลาดแรงงานที่กำลังขยายตัว รวมทั้งการฝึกอบรม upskill reskill แก่แรงงานเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC สำหรับความร่วมมือกับต่างประเทศ ในส่วนออสเตรเลีย มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับ UNSW UTS และ James Cook University โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครจะจัดส่งนักศึกษาเดินทางมาศึกษาต่อในโครงการ 2+2 ในมหาวิทยาลัยดังกล่าวตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ และ น.ส. ศิถี ตันบุนเต็ก ผู้อำนวยการบีโอไอ ณ นครซิดนีย์ ได้ให้การต้อนรับคณะจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร นำโดย ผศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

@@@@ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้เข้าร่วมการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในโอกาสวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล International Day for the Elimination of Violence Against Women ร่วมกับคณะกงสุลสตรีประจำนครซิดนีย์ โดยมี The Honourable Natalie Ward, NSW Minister for Women’s Safety and the Prevention of Domestic and Sexual Violence เป็น Keynote Speaker ซึ่งได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของรัฐนิวเซาท์เวลส์ในการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อสตรี โดยตั้งรัฐมนตรีกำกับดูแลภารกิจงานด้านนี้เป็นการเฉพาะ และดำเนินการต่าง ๆ อาทิ พัฒนากฎหมายและอบรมบุคลากร โดยเฉพาะตำรวจและนักสังคมสงเคราะห์ให้ก้าวทันรูปแบบของปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน มีข้อริเริ่มโครงการ Safe Pathway ที่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประเมินความเสี่ยง ให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ประสบปัญหา จัดทำช่องทางการแจ้งข้อมูลเพื่อขอรับความช่วยเหลือผ่าน application “Daisy” ปรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือโดยนำผู้กระทำความผิดออกไปจากครอบครัวและชุมชน แทนการให้สตรีและบุตรย้ายออกไปจากบ้าน ซึ่งทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนและมีที่พักที่เหมาะสม และการรณรงค์ให้ความตระหนักอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลุ่มเยาวชน

คณะกงสุลได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่ชุมชนต่างชาติประสบ ซึ่งผู้มีปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมักมีความกังวลไม่กล้าขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งข้อกังวลในเรื่องวีซ่า โดยเฉพาะผู้ที่ถือวีซ่าติดตาม การถูกจำกัดสิทธิในการดูแลบุตร หรือข้อจำกัดด้านการเงินและรายได้

ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนไทยที่ได้ดำเนินการมาตลอด โดยสวัสดิภาพสมาคม หรือ Thai Welfare Association รวมทั้งการร่วมรณรงค์กับผู้ประสานงานด้านพหุสังคมของตำรวจท้องถิ่น ในการสร้างความตระหนักถึงปัญหาและช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือให้แก่ชุมชนไทย ผู้ประสบปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว สามารถปรึกษาและขอรับความช่วยเหลือจากตำรวจท้องถิ่นโดยติดต่อไปที่หมายเลข 1800RESPECT หรือ 1800737732 หรือสวัสดิภาพสมาคมที่ โทร. 0416 431 727 (หากไม่มีผู้รับสาย กรุณาฝากข้อความ)

กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้เข้าร่วมการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในโอกาสวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล โดยมี The Hon. Natalie Ward, NSW Minister for Women’s Safety and the Prevention of Domestic and Sexual Violence เป็น Keynote Speaker

ไตรภพ ซิดนีย์
[email protected]