เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่บริเวณหน้าอุทยานสัจจะและกตัญญู จ.สุพรรณบุรี  (อนุสาวรีย์ นายบรรหาร ศิลปอาชา ) ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประธานโครงการสร้างวินัย รักษาความสะอาดในชุมชน  มอบหมายให้กลุ่มคุณทิ้งเราเก็บ นำโดย นายคมสันติ์ สุขสมดาว นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าระหัด ในฐานะเลขานุการโครงการฯ นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสุพรรณบุรี (ทสจ.) นายอัครวิทย์ จิ๋วนารายณ์ ผอ.สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 2 จังหวัดสุพรรณบุรี นำเยาวชน ประชาชน พนักงาน บริษัทชมเดือนคอมเพล็กซ์ ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณโดยรอบหน้าอนุสาวรีย์ นายบรรหาร เพื่อระลึกถึงวันคล้ายวันเกิด 19 สิงหาคม 2564 โดยปฏิบัติตามระเบียบและมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ดร.อุดม กล่าวว่า วันที่ 19 ส.ค.64 เป็นวันคล้ายวันเกิดของนายบรรหาร ศิลปอาชา ตนเห็นว่าเมื่อครั้งนายบรรหาร ยังมีชีวิตอยู่เป็นผู้อุทิศเวลาทั้งชีวิต ในการพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี ให้เจริญก้าวหน้าในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด นายบรรหารให้ความสำคัญอย่างมาก เมื่อมาราชการที่สุพรรณบุรี ถ้าพบเห็นขยะตกหล่นบริเวณใด จะบอกให้คนขับรถจอด และลงไปเก็บด้วยตนเอง สร้างความประทับใจให้แก่ชาวสุพรรณบุรีที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ดร.อุดม กล่าวต่อว่า ตนในฐานะประธานโครงการการสร้างวินัย รักษาความสะอาดในชุมชน ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาแล้ว 12 ครั้ง จนได้รับคำชมเชยจากทุกฝ่ายว่าเป็นโครงการที่ดี และทำจริง ประชาชน เยาวชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทุกครั้งที่จัดโครงการฯ เห็นว่า นายบรรหาร เป็นผู้ที่รักษาความสะอาด จึงนำเยาวชน ประชาชน มาจัดกิจกรรมดังกล่าว ที่บริเวณโดยรอบ เพี่อระลึก ยกย่อง เชิดชูเกียรติ สืบทอดเจตนารมณ์ ที่พัฒนาสุพรรณบุรีในทุกด้านให้มีความเจริญใน และสำนึกในบุญคุณของ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ที่มีคุณประโยชน์แก่จังหวัดสุพรรณบุรีอย่างมหาศาล จึงชวนกันไปทำความสะอาดบริเวณอนุสาวรีย์ของท่าน ให้สะอาดสวยงาม ถึงแม้ว่าเจ้าของพื้นที่จะดูแลอย่างดีแล้วก็ตาม การที่ชาวสุพรรณฯ ได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อฯพณฯ ท่าน ถือเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราชาวสุพรรณบุรี

“ผมยังจำคำพูดบางช่วงบางตอนของท่านบรรหาร ที่น่าจดจำสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านพูดว่า “ผมมาจากดิน ผมก็ต้องไปจากดิน คนเรานั้นมีแต่ตัว เงินทองเป็นสิ่งนอกกลาย แต่ว่าทำอะไรให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมืองแก่ประเทศชาติ ผมจะต้องทำอย่างยิ่ง” ผมจำคำนี้มาโดยตลอดและจะถือปฏิบัติตามเพื่อบ้านเมืองและเพื่อประเทศชาติ” ดร.อุดม กล่าวทิ้งท้าย.