25 ปีที่แล้ว สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 1 ในสมาชิกสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์อาเซียนได้จัดประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย มีนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล อันวาร์ อิบราฮิม รองนายกฯ และ รมว.คลัง เป็นประธานและองค์ปาฐก แค่หนแรกที่ได้จับมือด้วย ก็รู้สึกทันทีว่า นักการเมืองคนนี้ สมาร์ท มีเสน่ห์ ฉลาดพูด และบุคลิกภาพดีมาก สมกับที่เป็นเบอร์ 2 รองจาก ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกฯ ขณะนั้น นั่นเป็นปฐมบทที่ทำให้เราติดตามข่าวของเค้าเรื่อยมา แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ปี 2540 ต้มยำกุ้งเขย่าโลก เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

รัฐบาลไทยต้องเข้า “โปรแกรม IMF” ลดค่าเงินบาทเพื่อไม่ให้ค่าเงินร่วง จนอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศกับต่างประเทศเริ่มแตกต่างกันซึ่งอันตรายมาก แต่ ดร.มหาธีร์ ตรึงค่าเงินริงกิตกับดอลลาร์ เมิน IMF ซึ่งตรงข้ามกับ อันวาร์ที่เห็นด้วยกับแนวทางของไทย นั่นสร้างวิบากกรรมกับอันวาร์นับแต่นั้น มหาธีร์ ปลดเค้าออกจากทุกตำแหน่ง และประเคนข้อหา คอร์รัปชั่น กับข้อหาช็อกโลก รักร่วมเพศ ที่โดนกล่าวหาแล้วกล่าวหาอีก ทั้ง 2 คดี ศาลสั่งจำคุกอันวาร์ 6 ปีและ 9 ปีตามลำดับ จากนักการเมืองดาวรุ่งกลายเป็นดาวดับ เดินเข้าออกคุกนับ 10 ปี แต่เค้าก็ยังอดทนเล่นการเมืองเรื่อยมา จนปี 2563 เมื่อ มหาธีร์ จาก อัมโน ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกฯอีกครั้งในวัยกว่า 90 ปี มหาธีร์ สัญญาว่า จะให้อันวาร์นั่งเก้าอี้ต่อ แต่แล้วกลับยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่

นี่คืออีกจุดเปลี่ยนสำคัญ

อ้อ ก่อนไปต่อ ซัก 10 ปีที่แล้ว อันวาร์ มาเปิดตัวหนังสือที่เขียนเองที่กรุงเทพฯโดยมี ..ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เป็นพิธีกร มี สถาบันอิศรา อมันตกุล เป็นเจ้าภาพ เป็นอีกครั้งที่เราเห็นริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเค้า แต่ยังคงสมาร์ทเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ความเข้มข้นในชีวิตการเมืองที่สุดโลดโผน เร้าใจ สูงสุดแล้วตกต่ำ ตกต่ำแล้วขึ้นสูงอีกครั้ง?!?

24 พ.ย. ที่ผ่านมา อันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะหัวหน้าพรรคปากาตัน ฮาราปัน หรือ PH ได้รับเลือกตั้งมากสุด 82 เสียง แต่ไม่มากพอที่จะจัดตั้ง รบ.ได้ ซึ่งต้องได้ 113 เสียงจาก 222 เสียง จึงต้องจับมือกับพรรคบารีซัน นาซิอองนาล หรือ BN (อัมโน) ที่เป็นขมิ้นกับปูนอีก 30 เสียง และพรรค GPS จาก ซาราวัก อีก 23 เสียงรวมได้ 135 เสียง เกินครึ่งและเข้าสาบานตนต่อ คิง อับดุลเลาะห์ เรียบร้อยแล้ว

รอคอยกว่า 25 ปี ในวัย 75 ปี ด้วยความอดทนและวิ่งสู้ฟัดทุกรูปแบบ อันวาร์ ก็ได้เป็นนายกฯ คนที่ 10 ของมาเลเซียเสียที ทันทีเลย เค้าประกาศไม่รับเงินเดือนและไม่เอารถเบนซ์หรูคันใหม่เป็นรถประจำตำแหน่ง ขอใช้คันเก่าที่มีอยู่ เพื่อส่งสัญญาณให้ราชการประหยัดตัดงบที่ไม่จำเป็นออก รับวิกฤติเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากโควิด มีภูเขาอีกหลายลูกที่เค้าต้องข้ามไปให้ได้และไม่รู้จะรอดมั้ย แต่เราเอาใจช่วยสุดหัวใจ ให้นำพามาเลย์ก้าวสู่ประเทศที่คนกำลังเข้าสู่การมีรายได้สูงเสียที

หันมาดูบ้านเรา ยังติดแหง็ก “กับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง” อยู่ แต่นายพลไทย นอกจากมีรถเบนซ์หรูเป็นรถประจำตำแหน่งแล้วยังมีรถตรวจการอีกคันด้วย องค์กรอิสระ ส.ว.ลากตั้ง ล้วนกินหรู นั่งรถแอร์เย็นฉ่ำ มีแต่ประชาหน้าแห้ง ท้องกิ่ว มีนักการเมืองโปรไฟล์เจ๋งประกาศคำโต ประชาธิปไตยไม่มีทางลัด แต่ตัวเองและพรรคต้นทางกลับเป็นนั่งร้านให้เผด็จการหน้าตาเฉย ซ้ำร้ายช่วยปูพรมแดงกวักมือเรียกทหารมาปฏิวัติและร่าง รธน. อัปยศโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว แม้จนบัดนี้ก็กำลังเร่งแบ่งร่างแตกกอเพื่อสืบทอดอำนาจไม่สิ้นสุด

ก็ได้แต่หวังว่าคนไทยจะตาสว่างจริง ๆ เสียที รู้ทัน นักการเมืองขี้ฉ้อ ตอแหล สยบยอมเผด็จการร่วมก่อ “วงจรอุบาทว์” ซ้ำซาก จนประเทศชาติสุดบอบช้ำ แทบมองไม่เห็นอนาคตแล้ว

—————-
ดาวประกายพรึก