กว่า 1 เดือนเต็ม ๆ กับการเกาะติด แก๊งอาชญากรจากแดนมังกร จีนแผ่นดินใหญ่ หลังแผ่อิทธิพลเข้ามาหากินในเมืองไทย จนถูกกระชากหน้ากากออกมาให้เห็นถึง เครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่กำลังเติบโตวางแผนแยบยลนำเม็ดเงินผิดกฎหมายมหาศาล เล่นแร่แปรธาตุไปฟอกผ่านในหลากหลายธุรกิจ หรือให้ นอมินี ซื้ออสังหาริมทรัพย์มากมาย

ภาพตลอดช่วง 3-4 สัปดาห์ ตำรวจทั้งบุกค้น คฤหาสน์ บ้านหรู คอนโดมิเนียม รถยนต์ราคาแพง ซูเปอร์คาร์ บิ๊กไบค์ ไม่เว้นแม้กระทั่ง เครื่องบินเจ๊ต พร้อมเดินหน้ารวบรวมหลักฐานทำเรื่องลุยอายัดทรัพย์สินดังกล่าว เชิงผา มองว่าเป็นอีก คดีประวัติศาสตร์ ไม่แตกต่างจาก ซีรีส์แก๊งมาเฟียต่างชาติ ที่เคยดูจากภาพยนตร์หรือละคร จะแตกต่างกันก็เพียง เครือข่ายทุนจีนสีเทา เป็นคดีอาชญากรรมใหญ่ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในเมืองไทย ไม่ใช่บทภาพยนตร์!!

1 ในปัญหาสังคมคดีอาชญากรรมแก๊งต่างชาติที่มาเติบโตเบ่งบานในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งกำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ นำกองทัพยึดอำนาจ รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 เหตุผลหลัก ๆ คือจะเข้ามาปฏิรูปประเทศชาติบ้านเมืองให้ดีขึ้น รวมถึง “ตำรวจ” ก็เป็นหน่วยงานเป้าหมายที่จะต้องปฏิรูปด้วยเช่นกัน แต่ผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้กำกับดูแลหน่วยงานมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น ทหาร-ตำรวจ ก่อนและหลังรัฐประหารแทบไม่ต่างกันเลย

ดูจากบทสะท้อน คดีอาชญากรรมใหญ่ โดยเฉพาะคดีที่เกิดขึ้นมาจาก ฝีมือของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เสียเองนั้น เอาแค่ 3 เรื่องใหญ่ ที่ได้สร้างความตื่นตะลึงให้สังคมไทย ถ้าไล่เรียงจาก คดีผู้กำกับโจ้...ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องรวม 7 คน ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2564 นอกจากจะโดนคดีอาญาโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตแล้ว ล่าสุด ป.ป.ช. เพิ่งมีมติชี้มูลผู้กำกับโจ้ ร่ำรวยผิดปกติ ขอให้ ทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 1,358 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน

จากคดีผู้กำกับโจ้ ยังมีคดี ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายร่างกายทรมาน ทหารหญิง แต่ได้สั่นสะเทือนไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองทัพบก รวมไปถึง สภาอันทรงเกียรติ หลัง ส.ต.ท.หญิง ถูกสื่อไล่ตามตรวจสอบประวัติ ตั้งแต่การเข้าบรรจุตำรวจ นอกจากจะอายุเกิน 35 ปีแล้ว ยังมีชื่อไปโผล่ กอ.รมน.ภาค 4 (สน.) แต่ตัวเองไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จนฝ่ายค้านกระโดดเอาข้อมูลไปขยี้แผลรัฐบาลในสภา เปิดภาพให้เห็นความฉาวโฉ่ของ ระบบอุปถัมภ์ ที่ยังคงโยงใยกับผู้มีอำนาจ

ล่าสุดมาเกิด เหตุโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู เศร้าสลดไปทั่วโลก ส.ต.อ.คลั่งสติแตก สังหารเด็กนักเรียนไร้เดียงสา มากถึง 22 คน ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง และมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อไปด้วย ยอดรวม 36 ราย ส่วนไอ้คลั่งยิงตัวตาย ศพที่ 37 รัฐบาลออกมาตื่นตูมงัดสงครามยาเสพติด สั่งกวาดล้าง ยาเสพติด-อาวุธปืน จนกลายเป็นตลกร้าย ตร.นอกจากจะถูกระดมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เมื่อไปตรวจ บัญชีปืนหลวง ยังถูกขโมยไปขายอีกนับร้อยกระบอก

แฮชแท็ก "กราดยิงหนองบัวลําภู" ยังติดเทรนด์ โซเชียล

แถมมาแจ๊กพอตแตกจากคดี เครือข่ายทุนจีนสีเทา หลังมีนักท่องเที่ยว ไฮโซสาวชาวจีน มาจบชีวิตปริศนาใน ผับท็อปวัน พื้นที่ สน.สุทธิสาร คดีเงียบมากว่า 1 เดือน กระทั่ง ผู้ช่วยทูตตำรวจจีน ประจำประเทศไทย ได้ประสานมายัง บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.
สุรเชษฐ์ หักพาล
รอง ผบ.ตร.จึงพบว่าเสียชีวิตเพราะยาเสพติด และเมื่อได้ข้อมูลลับเพิ่มเติมจาก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” มาช่วยไขกุญแจ จึงเปิดให้เห็นภาพของเครือข่ายทุนจีนสีเทาแบบชนิดเต็มคาราเบล

โดยเฉพาะพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของ “เจ้าหน้าที่รัฐนอกรีต” รวมไปถึงบรรดา “นอมินี” ที่กลายเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ให้ เครือข่ายทุนจีนสีเทา เมื่อตำรวจไล่ขุดรากถอนโคนแก๊งอาชญากรจากแดนมังกรอย่างจริงจังแล้ว ต้องกล้าตัด “นิ้วร้าย” เจ้าหน้าที่รัฐนอกรีตออกไปด้วย ไม่เช่นนั้นแล้ว ปัญหาก็ยังวนเวียนเช่นเดิม ปราบแก๊งมังกร แต่ยังมีแก๊งข้ามชาติประเทศอื่นแอบแฝงอยู่!!

———————————
เชิงผา