เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือค่ะ
ดิฉัน อายุ 55 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ตรวจน้ำตาล 87 หน่วย ไขมันไตรกลีเซอไรด์ ได้ 100 คอเลสเตอรอล 140 หน่วย ความดันเลือด 110/70 มม.ปรอท หมอบอกว่าร่างกายปกติทุกอย่าง ส่วนสามีอายุ 62 ปี ป่วยเป็นเบาหวานมาได้ 2 ปี ทุกวันนี้ก็กินยาลดน้ำตาลอยู่ แต่เรื่องการแข็งตัวของสามียังใช้งานได้ดี แต่ตัวดิฉันเริ่มหมดประจำเดือน ก็รู้สึกว่ากว่าตัวเองไม่อยากร่วมเพศกับสามี แม้จะกระตุ้นเล้าโลมดีเพียงใดก็ตาม ก็ไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่มีความตื่นตัวทางเพศเลยแม้แต่น้อย บางครั้งสามีอารมณ์เสีย และหงุดหงิด จนต้องอาศัยการช่วยตัวเอง ถึงแม้จะยอมให้สามีออกไปหาความสุขนอกบ้านได้ แต่เขาก็ไม่ยอมไป จึงอยากจะเข้ามาขอคำแนะนำกับคุณหมอโอ ให้ช่วยแก้ปัญหาทางเพศ
ด้วยความนับถือค่ะ
ธิชา 55
ตอบ ธิชา 55
อาการของหญิงวัย 55 ปีนี้ เป็นอาการของหญิงวัยทอง ไม่ใช่ความผิดปกติทางเพศแต่อย่างใด ผู้หญิงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทอง จะต้อง
มีอาการของคนวัยทอง ได้แก่ อาการร้อนวูบวาบตามตัว เป็นอาการเริ่มแรกของผู้หญิงวัยทอง อารมณ์หงุดหงิดและแปรปรวนได้ง่าย จะมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ในผู้หญิงวัยทองบางคน ความจำเสื่อมลง หลงลืมได้ง่าย เป็นสิ่งที่พบได้ไม่น้อยเช่นกัน ปัญหาเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกเจ็บปวดเวลาร่วมเพศ สืบเนื่องมาจากการที่น้ำหล่อลื่นลดน้อยลง และการลดลงของความต้องการทางเพศ มักพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยทอง เพราะทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางเพศของสามีได้ ก็มาจากการมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนน้อยลง และฮอร์โมนชายที่ฝ่ายหญิงมีอยู่บ้างก็จะลดลงจากปกติมาก
การรักษาอาการดังกล่าวได้ด้วยการใช้ฮอร์โมนเสริมในส่วนที่ขาด ก่อนเสริมฮอร์โมน คนไข้จะต้องได้รับ การตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ตัวคนไข้มากที่สุด ในปัจจุบันมีสารสกัดจากถั่วเหลือง ซึ่งให้สารสำคัญในกลุ่ม Isoflavones มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการวัยทองต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีผลป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและยังมีผลลดระดับคอเลสเตอรอลอีกด้วย, ตังกุยช่วยปรับความสมดุลของฮอร์โมนบรรเทาอาการวัยทอง ปรับประจำเดือนให้มาปกติ บำรุงเลือดช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ต้านอนุมูลอิสระและป้องกันมะเร็งในสตรี และเมล็ดแฟลกซ์ มีผลให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของร่างกายเราออกฤทธิ์ได้น้อยลง ทำให้เกิดความสมดุลของฮอร์โมน ซึ่งก็หมายความว่าในภาวะที่ร่างกายมีเอสโตรเจนสูงจะช่วยลดฤทธิ์ของเอสโตรเจน แต่เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะเอสโตรเจนต่ำจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ของเอสโตรเจนเป็นผลให้เกิดความสมดุลของเอสโตรเจนในร่างกายอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ.
———————
ดร.โอ สุขุมวิท 51
