การปรับนโยบายควบคุมชายแดนให้เป็นปกติ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น เริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ญี่ปุ่นกลับมารับแรงงานต่างชาติอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การระบาดใหญ่ โดยเฉพาะการควบคุมชายแดนที่เข้มงวดที่สุดในโลกนานเกือบ 2 ปี กลับส่งผลให้แนวโน้มการขยายตัวของแรงงานต่างชาติต้องหยุดชะงัก และทำให้เกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับมุมมองของญี่ปุ่น ที่มีต่อการมีอยู่ของชาวต่างชาติในประเทศ เนื่องจากเมื่อเดือน ม.ค. 2563 ชาวต่างชาติที่มีวีซ่าเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย รอเข้าประเทศมากกว่า 400,000 คน โดยชาวต่างชาติจำนวนมากที่คาดหวังว่าจะอยู่อาศัยในญี่ปุ่น ต้องรอนานถึง 2 ปี เพื่อรอการเปิดพรมแดนอีกครั้ง สร้างความตึงเครียดให้กับการเงินและสุขภาพจิตของพวกเขา

เมื่อไม่นานมานี้ ญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าตัวเองรู้สึกระแวงอย่างมาก เมื่อกล่าวถึงการมีอยู่ของชาวต่างชาติภายในประเทศ ทั้งระดับสังคมและระดับการเมือง แต่ในตอนนี้ ญี่ปุ่นเกือบทำให้นโยบายควบคุมชายแดนเป็นปกติอย่างสมบูรณ์แล้ว และดูเหมือนว่าจะรับแรงงานต่างชาติใหม่หลายพันคนเข้ามาในปีนี้อีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า ญี่ปุ่นจะยอมรับและรวมผู้เข้ามาใหม่ต่อไปอย่างไร?

แม้การพึ่งพานักศึกษาที่ทำงานระหว่างเรียนและนักศึกษาฝึกงานด้านเทคนิคเพื่อเติมเต็มความต้องการด้านแรงงานอย่างเป็นระบบ อาจเป็นสิ่งที่น่าสนใจในฐานะวิธีแก้ปัญหาระยะสั้นที่คุ้มค่าสำหรับนายจ้าง แต่มันกลับไม่ถือว่าเป็นทิศทางนโยบายที่ยั่งยืนสำหรับญี่ปุ่น เนื่องจากมันไม่ได้จูงใจให้นายจ้างได้รับการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในด้านความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจของพวกเขาในอนาคต อีกทั้งลักษณะการหมุนเวียนของระบบเหล่านี้ ยังห้ามไม่ให้มีการจัดตั้งการสำรองแรงงานต่างชาติที่มีประสบการณ์การทำงานในญี่ปุ่น และความเชี่ยวชาญด้านภาษาด้วย

อย่างไรก็ดี การคงไว้ซึ่งหลักการของประเทศในการไม่ใช้นโยบายการอพยพเข้าเมืองที่เป็นทางการในระดับชาตินั้นจะมีผลตามมา ดังที่การระบาดใหญ่แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนของแนวโน้มความเกลียดกลัวชาวต่างชาติที่มีอยู่ในทั้งชนชั้นการเมืองและสังคมส่วนใหญ่ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความน่าดึงดูดของญี่ปุ่นในฐานะประเทศปลายทาง เนื่องจากเรื่องราวความยากลำบากที่ผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติประสบพบเจอ จะไปถึงหูของผู้เข้ามาใหม่ ผ่านเครือข่ายการย้ายถิ่นฐาน

สำหรับตอนนี้ ญี่ปุ่นอยู่ในจุดที่จะต้องตัดสินใจ ทั้งการเผชิญกับความต้องการแรงงานต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และข้อสงสัยใหม่เกี่ยวกับความสามารถในการดึงดูดพวกเขา มันดูเหมือนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง แต่ในขณะเดียวกัน ระดับการเมืองมีความตั้งใจเพียงเล็กน้อยที่จะทำการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงทิศทางนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ได้นำไปสู่คำถามสุดท้ายที่ว่า “หากเป็นเรื่องการอพยพเข้าเมืองแล้ว ญี่ปุ่นกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน?”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES