สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ มีเนื้อหาสำคัญเรียกร้องการเจรจา "ร่วมกันระหว่างทุกฝ่าย" เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลอันเป็นเอกภาพในอัฟกานิสถาน การยุติการสู้รบ และการยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน 
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของยูเอ็นเอสซียังระบุ "ความสำคัญของการต่อต้านการก่อการร้าย" ในอัฟกานิสถาน เพื่อไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่น โดยไม่ควรมีบุคคลกลุ่มใดก็ตามในอัฟกานิสถาน รวมถึงกลุ่มตาลีบัน สนับสนุนให้แผ่นดินอัฟกานิสถานเป็นฐานปฏิบัติกิจกรรมก่อการร้าย
นอกจากนี้ ยูเอ็นเอสซียังเรียกร้องความเสมอภาคระหว่างเพศในอัฟกานิสถาน โดยระบุในแถลงการณ์อย่างตรงไปตรงมา ว่าคณะรัฐบาลชุดใหม่ "ควรมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย" ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวอย่างตรงไปตรงมาถึงกลุ่มตาลีบัน ขอให้ใช้ความอดกลั้น "อย่างสูงสุด" เพื่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อโอกาสของการรับมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทั้งนี้ ระหว่างที่กลุ่มตาลีบันปกครองอัฟกานิสถาน ระหว่างปี 2539-2544 ผู้หญิงไม่สามารถทำงาน เด็กผู้หญิงไม่สามารถไปโรงเรียน และผู้หญิงทุกวัยต้องแต่งกายปิดหน้าและปกคลุมร่างกายอย่างมิดชิด หากจะออกจากบ้าน และต้องไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวซึ่งเป็นผู้ชายเท่านั้น
ประชาชนหลายร้อยคนพยายามวิ่งตามเครื่องบินลำเลียงซี-17 ของกองทัพสหรัฐ ซึ่งกำลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติ ในกรุงคาบูล
ด้านกลุ่มตาลีบันออกแถลงการณ์มาแล้วหลายฉบับ นับตั้งแต่เข้าสู่กรุงคาบูล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อหวังบรรเทาความหวาดกลัวของประชาชน แต่ชาวอัฟกันจำนวนมากหลั่งไหลไปรวมตัวกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมื่อวันจันทร์ เพื่อหวังได้มีโอกาสโดยสารเครื่องบินออกนอกประเทศ จนเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก และมีรายงานกองทัพสหรัฐซึ่งยังคงรักษาพื้นที่ในสนามบิน ต้องยิงปืนเตือนขึ้นฟ้าหลายครั้ง.

เครดิตภาพ : AP