“มองไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง มองไปข้างหลังอย่างมีบทเรียน คิดบวกไม่ได้เป็นการหลอกตัวเองว่าไม่มีปัญหา แต่สอนให้เรามีสุขได้ภายใต้ปัญหาที่มีอยู่”

พักหลังๆ คุณผู้อ่านคงจะเห้นข่าวผ่านตามาบ้างแล้ว เกี่ยวกับผลพวงจากการเสพกัญชาจนมีอาการผิดปกติ บางข่าวก็คลุ้มคลั่ง บางคนก็จิตหลุด บางทีก็ทำร้ายคนรอบข้าง จากที่ตอนแรกหลังจากเปิดเสรีเหมือนจะไม่มีอะไร แต่นับวันผลกระทบของมันกลับสร้างความหวั่นวิตกมากขึ้น ถ้าใช้ในทางที่ผิด

คดีนี้เริ่มต้นจากศูนย์วิทยุ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายที่ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามตลาดนัด 700 ไร่ หมู่ 3 อ.สัตหีบ จึงส่งสายตรวจและตู้ยามชุมชนบ้านเตาถ่าน เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ หญิงสาว อายุ 50 ปี อาชีพเป็นพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งกำลังยืนอยู่ในอาการเสียใจ หลังถูกผู้เป็นลูกชาย ชื่อ นายเอ วัย 16 ปี ฉุดกระชากลากดึง ตบหน้าล้มคว่ำ และพยายามทำร้ายร่างกายด้วย อ้างว่าต้องการเงิน 400 บาท นำไปใช้หนี้ค่ากัญชาที่ซื้อมาเสพ

ตำรวจได้เข้างับเหตุและพยายามควบคุมตัว นายเอ ซึ่งมีอาการก้าวร้าว พูดจารุนแรงหยาบคาย ไม่ให้การเคารพผู้เป็นบุพการี โวยวายว่าต้องการเงิน 400 บาท ไปซื้อกัญชาเสพ ทั้งยังพยายามวิ่งให้รถชน เพื่อขู่แม่ตัวเองให้ไปหาเงินมาให้ตามที่ต้องการ

ขณะที่ผู้เป็นแม่มีเงินติดตัวเพียง 100 บาท เป็นค่ารถโดยสาร และค่าอาหารที่จะใช้ไปทำงาน นับเป็นภาพที่สุดเวทนาใจต่อผู้พบเห็นอย่างมาก ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ยังโรงพักและตักเตือนอบรม

โดย นายเอ นั้นมีนิสัยก้าวร้าว มีพฤติกรรมชอบลักขโมย หลังจากเปิดให้มีการเสพกัญชาเสรี ก็ตกเป็นทาสกัญชา ทุกครั้งที่เสพกัญชาเข้าไปก็จะมีอาการก้าวร้าวหนักกว่าที่เคยเป็นอยู่ ก่อนเกิดเรื่องก็ได้ขโมยโทรศัพท์มือถือนำไปขายแลกเงินไปใช้หนี้ค่ากัญชา 400 บาท ที่เจ็บปวดหัวใจไปมากที่สุด คือผู้เป็นลูกถือมีดข่มขู่จะเอาเงินจากแม่ให้ได้ พอไม่ได้ก็ทำร้าย

เมื่อตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ร่วมกันหารือ และสอบปากคำ นายเอ เพื่อหาทางช่วยเหลือ ก็พบว่าติดกัญชาอย่างหนัก พอมึนได้ที่ก็จะมีพฤติกรรมทำรุนแรงกับบุพการี

นายเอ ก็ยอมรับแบบว่ามีพฤติกรรมไม่อยากเรียนหนังสือ ก่อนหน้านี้เคยไปทำงานก่อสร้างได้ค่าแรงรายวัน แต่กลับไปลักขโมยของ และลักจักรยานยนต์ รวมทั้งติดกัญชา โดยหลงเชื่อคนขายว่า หากซื้อกัญชาครบตามกำหนดก็จะแถมให้อีก ทำให้เจ้าตัวรีบไปหาเงินมาซื้อ

เมื่อเสพกัญชามากๆ แล้วไม่ได้เงิน ก็ฉุนเฉียวลืมสำนึกบุญคุณทุกอย่าง และก่อเหตุทำร้ายแม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งไปให้อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว เพื่อขัดเกลาอบรมบ่มนิสัยหวังจะช่วยให้หลุดพ้นจากการติดกัญชา

แม้คดีนี้จะไม่รุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต แต่มันก็สะเทือนความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ที่ลูกแท้ๆ ของตัวเอง ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเพียงเพราะเสพติดกัญชา รวมไปถึงความกังวลใจของหลายๆ ครอบครัวที่มีต่อ “กัญชา” ก็เข้าใจว่า ถ้าใช้ถูกวิธี ใช้ในทางการแพทย์ กัญชามันมีประโยชน์มากมาย เป็นพืชเศรษฐกิจด้วย แต่เผอิญว่า ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไปใช้ในทางที่ผิด..ถึงจะเสรีแต่มันก็น่ากลัว.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

บริจาคโลหิต
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มอบหมายให้ ด.ต.เทวินทร์ พร้อมสุข ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ชุมแพ ปฏิบัติหน้าที่งานหน้าห้อง ผกก. นำข้าราชการตำรวจชั้นประทวนและครอบครัวร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งในการบริจาคโลหิตครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนภารกิจของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เป็นการทำความดีด้วยหัวใจ แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้ให้อย่างไม่หวังผลตอบแทน การให้โลหิตเป็นการเสียสละเพื่อชีวิตผู้อื่น การร่วมกันบริจาคเพื่อได้โลหิตในปริมาณมาก จะนำสู่การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไปได้อีกนับพันนับหมื่นชีวิต ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอชุมแพ

เพิ่มความเข้ม
ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง ถนนมิตรภาพ จ.ขอนแก่น ภายใต้อำนวยการนำโดย พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล.ขอนแก่น ได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมข้าราชการตำรวจทางหลวงในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของรถสายตรวจ พร้อมกำลังประจำรถทุกคันที่ออกตรวจเมื่อเผชิญเหตุ เรื่อง การสกัดจับและการตรวจค้น (หลักสูตร DEA) เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ โดยคณะครูฝึกถ่ายทอดฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ทำทุกอย่างด้วยสำนึก เพราะเราคือ ตำรวจทางหลวง (ขอนแก่น)

พบปะผู้นำชุมชน
พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วย จนท.ตร.ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองระยอง ลงพื้นที่พบปะผู้นำชุมชน ในการป้องกันปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด ในชุมชน เพื่อหาแนวทางป้องกันและหาข้อมูลปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในชุมชน ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา ให้ จนท.ตร. เข้าถึงประชาชน ลงพื้นที่พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่างๆ รวมถึงปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดในชุมชน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและเป็นข้อมูลให้กับ จนท.ตร. ในการทำงานป้องกันและปราบปรามไม่ให้ปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นในชุมชนหรือให้น้อยลง ดังนั้น จนท.ตร. ต้องทำงานเชิงรุก เข้าถึงประชาชนให้มากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา ทาง สภ.เมืองระยอง ได้มี จนท.ตร. ชุดชุมชนสัมพันธ์ ลงพื้นที่ให้ความรู้กับประชาชน รวมถึงหาข่าวสาร และการแจ้งเหตุให้กับ จนท.ตร. ให้ระงับเหตุก่อนจะเกิดปัญหาใหญ่ ที่สูญเสียทรัพย์สินหรือชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับชาวบ้านในชุมชน อย่างไรก็ตาม ผู้นำชุมชนให้การต้อนรับและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ จนท.ตร. เป็นอย่างดี รวมถึงมาตรการการตรวจเข้มของ จนท.ตร. สายตรวจ ที่เข้ามาดูแลทรัพย์สินของประชาชนในชุมชน การป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ทำให้ประชาชนมีความอุ่นใจเป็นมิตรกับตำรวจ

ที่พึ่งชาวนา
จากนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือก หากสถานีตำรวจจะเปิดลานคอนกรีตหน้าโรงพัก เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่นำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวมาตากให้แห้ง ป้องกันการลักขโมยข้าวเปลือกของกลุ่มมิจฉาชีพตามสถานที่ตากข้าวของชุมชนต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้ เพื่อเปิดพื้นที่โรงพักประชาชน ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู พลตำรวจตรี พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ในช่วงนี้หาก สภ. ใดมีความพร้อมในเรื่องพื้นที่ รีบประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรนำข้าวเปลือกมาตากและฝากไว้กับทุก สภ. ในสังกัดได้ ขณะที่สถานีตำรวจภูธรสุวรรณคูหา พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สภ.สุวรรณคูหา รีบขานรับนโยบาย อนุญาตให้ชาวนา นำข้าวเปลือกมาตากบริเวณลานหน้าโรงพักได้ แถมหากขาดแรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรพร้อมลุยช่วยพลิกเมล็ดข้าวเปลือกให้ฟรี และเป็นที่น่าสังเกตว่า ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่นำข้าวเปลือกมาตากข้าวกันในช่วงนี้ ชาวบ้านนำรูปภาพลงสื่อโซเชียลกันตรึม.

********************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป
(ทุกวันศุกร์)