เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เดือนกว่า ๆ แต่ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. มีเรื่องน่าปวดหัวเข้ามารบกวนอีกแล้ว เกี่ยวกับกรณีการจัดซื้อ “เป้าบินแบบไอพ่น” มูลค่าโครงการ 49.7 ล้านบาท โดยมีกรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
สำหรับโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 63 เป็นการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์จากประเทศออสเตรเลีย กําหนดส่งมอบตามสัญญาในวันที่ 3 ก.พ. 64 แต่จนถึงปัจจุบัน (พ.ย. 65) บริษัทผู้ขายสามารถส่งมอบยุทโธปกรณ์ดังกล่าวได้หรือยัง?
ถ้ายังไม่มีการทดสอบการบิน ยังไม่มีการส่งมอบเพื่อใช้งานจริงตามสัญญา ต้องเสียค่าปรับร้อยละ 0.10 ต่อวัน รวมระยะเวลามากกว่า 643 วัน ใช่หรือไม่?
กรณีดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องยกเลิกสัญญากับบริษัทผู้ขายใช่หรือไม่? จนถึงปัจจุบันมีข่าวว่อน ๆ ว่านักวิ่งระดับ “นาวาเอก” มีความพยายามเป็นอย่างสูง ที่จะไม่เสนอให้ยกเลิกสัญญา และเรียกค่าปรับจากผู้ขาย โดยอ้างว่าได้รับ “ไฟเขียว” จากผู้บังคับบัญชาระดับสูงแล้ว!
กรณีการจัดซื้อ “เป้าบินแบบไอพ่น” ดังกล่าว ส่อแววไปในทางจะบีบให้กรรมการตรวจรับรีบลงนาม ก่อนจะรีบ “จําหน่าย” เป้าบินดังกล่าว ด้วยการเก็บเข้าคลังไปเลย! โดยไม่นําไปใช้งาน แบบนี้ผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอน จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ในมาตรา 157 ด้วยหรือไม่? ตรงนี้ ผบ.ทร. ควรตรวจสอบและติดตามอย่างใกล้ชิด!
เรื่องนี้เมาท์กันให้แซ่ด! ว่า “เจ้าแม่” ซึ่งเป็นนายหน้าขาย แต่เดิมมีอาชีพตระเวนขายเครื่องกรองน้ำตามคอนโดฯ ก่อนจะเห็นช่องทางลัดหันมาจับงานทางทหาร จนได้โครงการใหญ่ ๆ ของกองทัพเรือหลายโครงการในหลายหน่วยงาน โดยมีนายทหารระดับ “นาวาเอก” คนหนึ่ง ทําหน้าที่เป็นกุนซือให้ทุกครั้ง จนตัวเลขการค้าขายกับกองทัพเรือทะยานไปใกล้หลักพันล้านบาท เพียงช่วงเวลาไม่กี่ปี
แต่เอาล่ะ! ถ้าทำมาหากินกันโดยสุจริต ถูกต้องและโปร่งใสก็ไม่ว่าอะไรกัน! แต่ปัญหาคือ “เป้าบินแบบไอพ่น” ที่ว่านี้ บินได้จริง ๆ หรือเปล่า? ส่งมอบสินค้ากันตามกำหนดเวลาหรือไม่? แล้วไม่ใช่มุบมิบกันรีบ ๆ “ตรวจรับ” แล้วรีบ ๆ “จำหน่าย” เก็บเข้าคลังอาวุธไปเลย แล้วทหารเรือจะใช้ “เป้า” อะไร? ในการฝึกซ้อมยิงจรวด และปืน ปตอ.เล่า?
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คงไม่ถูกต้องแน่ ๆ จึงเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองทัพเรือต้องตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากกรณีดังกล่าวต้องถูกส่งเรื่องให้ “ป.ป.ช.” ตรวจสอบความโปร่งใสอย่างแน่นอน! เพราะเงินหลวงแม้จะไม่ถึง 50 ล้านบาท แต่ต้องใช้จ่ายอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา และได้สินค้าที่มีคุณภาพ
อีกประเด็นที่ตั้งข้อสงสัยกันมาก คือการจัดซื้อพัสดุซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น ตามระเบียบแล้วคู่สัญญากับกองทัพ จะต้องได้รับการแต่งตั้งจากผู้ผลิตในต่างประเทศให้เป็นตัวแทนโดยตรงไม่ใช่หรือ? เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถซ่อมบํารุงรักษาหลังการขายได้อย่างต่อเนื่อง
แต่กรณีของเป้าบินแบบไอพ่นที่ว่านี้ มีการละเลยข้อกําหนดตามเงื่อนไขหรือไม่? บริษัทเอกชนมีเอกสารแต่งตั้งการเป็นตัวแทนจากผู้ผลิตหรือไม่? หรือว่าอาศัย “คอนเนกชั่น” กับคนในกองทัพยินยอมหลับตาให้ข้างหนึ่ง โดยกําหนดเงื่อนไขใน “ทีโออาร์” ว่าผู้ขายไม่จําเป็นต้องมีใบแต่งตั้งเป็นตัวแทนจากต่างประเทศ เพื่อให้ “เจ้าแม่” คว้างานไปอย่างสบายใจเฉิบ!
แต่ย้ำว่าปัญหาใหญ่ คือส่งมอบสินค้าทันเวลาตามกำหนดหรือไม่? ถ้าไม่ทันและล่าช้ามาก ก็ต้องจ่ายค่าปรับ! และเป้าบินดังกล่าวสามารถบินได้จริงหรือเปล่า? อย่ามาหลอกกันนะ! โดยโครงการนี้มาก่อน พล.ร.อ.เชิงชาย เข้ามาเป็น ผบ.ทร. แต่ท่านต้องไปตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสโดยด่วน!!
———————
พยัคฆ์น้อย