จัดเป็นสองตัวแม่ของวงการบันเทิงที่โคจรมาเจอกันในรายการคุยแซ่บ Show แล้วถูกสนใจหนักมากสำหรับสาว นิโคล เทริโอ และ แอน สิเรียม ที่หลายคนสนใจวิธีการเลี้ยงลูกของเธอรวมถึงเรื่องอื่นๆในชีวิต ซึ่งทั้งสองสาวก็เล่าหมดเปลือกทีเดียว

นิโคล เผยว่า “สมัยก่อนกี้ปลื้มพี่แอนมากเกือบ 30 ปี พี่แอนเป็นคนแรกของกี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เวลาเขาสัมภาษณ์กี้เข้าในวงการยังไง ครั้งแรกทำอะไร ครั้งแรกในวงการของกี้คือถ่ายแบบ งานแรกที่เจอกล้อง เจอช่างแต่งหน้า คือถ่ายแบบกับพี่แอน แล้วพี่แอนเขาจะเป็นนัมเบอร์วันอยู่ที่นั่น แล้วเราเพิ่งไปวันแรก จะเขินมาก พี่แอนเป็นคนพิเศษของกี้เลยคืออย่างที่ทุกคนถามมา เรามักจะจำครั้งแรกของเราในชีวิตเสมอ เพราะว่ามันจะเป็นภาพเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เลย ถ้าถามอะไรที่เราเจอกันตามงาน ตามอีเวนต์ เราก็เจอกันมาเป็น 10 ปี แต่ว่าวันนั้น ชอตนั้น โมเมนต์นั้น กี้จะไม่มีวันลืม เพราะก้าวแรกของชีวิตเข้ามาในวงการ แล้วโมเมนต์นั้นเราอยู่ด้วยกัน”

“เรื่องคนคุยจริงๆ ก็มีเพื่อน มีอะไร นี่เอาจริงๆ เลย เพราะกี้ถ้าคบใครก็เปิดเผย ตอนนี้ก็ขอโฟกัสเรื่องลูกชายก่อน ลูกชายก็มีมาปรึกษาปัญหาหัวใจนะ มีถามๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ถาม เราเหมือนเพื่อนกัน จริงๆ ทิกเกอร์ไม่ได้ถามเรื่องผู้หญิงกับกี้เท่าไหร่ เพราะเขามีแต่เพื่อนๆ แต่กี้จะถามลูกเกี่ยวกับเวลาผู้ชายพูดอย่างนี้เขาหมายความว่ายังไง เพราะมุมมองของลูกจะใสและตรงไปตรงมา เพราะบางทีเราคิดซับซ้อนเยอะไป แต่กี้ไม่หวงลูกนะ เขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องใช้ ไม่งั้นเขาจะเจอคนที่ใช่ได้ยังไงถ้าเราไปปิดกั้นเขา แต่ว่าห่วงไหม ก็ห่วงตามประสาแม่ สเปกของคนที่อยากได้สำหรับลูกเราเหรอคะ ชอบผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง มั่นใจในตัวเอง จะเป็นยังไงก็ได้ แต่ชอบให้เป็นตัวของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง ให้ลูกเรารักในตัวเขา แค่ขอให้มีความเป็นไทย มีสัมมาคารวะ ตรงนั้นจะดีมาก ถ้ามีนะคะ”

แอน เผยว่า “น้องเขาน่ารักเสมอต้นเสมอปลายนะ เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ แอนจะจำรอยยิ้มเขาได้ แล้วพอถ่ายแบบอยู่แป๊บนึงนิโคลก็ได้เป็นนักร้องเลย เรื่องโรคจิตป่วยแอน ตอนแรกแอนไม่รู้เรื่องเลย คือนนนี่เป็นคนบอกแอนว่าแม่มีอย่างนี้ โรคจิตมาป่วนไอจีแม่ แอนก็บอกว่าจริงเหรอ คือเขาใช้คำไม่สุภาพ แล้วก็มีการตัดต่อภาพ น้องนนนี่มาบอกแอน แอนถึงได้รู้ เพราะปกติแอนไม่ได้อ่านคอมเมนต์ตลอด มันไม่มีเวลา แล้วก็ไม่ได้เช็กว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราถ่ายรูปบางทีเซ็กซี่ แล้วตอนหลังนนนี่ก็จัดการ หนูต้องไปแจ้งความ เราก็เลยรู้ว่าอ่อลูกเราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ดูแลให้ นนนี่กับแฟนคลับถล่มกันก็เลยหมดไป คือถ้ามีอะไรที่ไม่สุภาพ หรือเขียนคำไม่ดีก็ต้องขอบคุณน้องๆ ช่วยดูให้แม่ เพราะแม่ก็ไม่ไหวแล้ว ดูไม่ทัน ตาไม่ดีด้วย”

“ส่วนเรื่องที่เมาท์ว่าแอนกับสามีห่างกัน ห่างกันเพราะช่วงโควิดนี่แหละ คือเราก็ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯตลอด แล้วเขาก็อยู่บางเสร่ เขาก็บอกว่าเขาไม่รู้จะเข้ามากรุงเทพฯทำไม มันไม่มีอะไรทำ บางทีเรากลับไป 1-2 วัน แล้วเราก็ต้องกลับมาทำงานอีก บางทีเราก็เหนื่อย แต่ก็โทรฯคุยกันทุกวัน แล้วต้องโทรฯแบบวิดีโอคอลด้วยได้รู้ว่าอยู่สถานที่จริงไหมตรงนี้ ส่วนลูกสาวแอนตอนนี้เก็บตัวมากๆ เก็บทั้งตัว ทั้งใจ เพราะช่วงสถานการณ์โควิด ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีให้เขาได้อยู่กับตัวเองมากๆ เขาจะได้รู้สึกว่าสิ่งที่ใช่ สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ มันคืออะไร เพราะว่าช่วงวัย 25 มันสำคัญมากนะ ช่วง 25-30 ปี มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกแบบนีง แอนไม่หวงเขานะ แต่ยังคงห่วงอยู่ แอนเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนก็เหมือนกัน ไม่ว่าขนาดไหนก็ยังต้องห่วงอยู่ ในอนาคตก็อยากให้เจอกับคนที่เข้ากับเขาได้ เพราะบางทีดีเกินไปลูกเราอาจจะไม่ชอบ อยากให้เจอคนที่เข้ากันได้จับมือแล้วจูงมือกัน ช่วยทำในสิ่งที่มันเป็นอนาคตของเขา เพราะแอนก็ไม่สามารถไปทำแทนเขาได้ เอาที่ลูกมีความสุข แล้วก็สามารถที่จะสร้างเนื้อ สร้างตัวได้ ตอนนี้ถามว่าห่วงไหม ห่วงอยู่แค่เรียนจบเขาก็เรียนจบให้เราแล้ว เราอยากให้เขาลดหุ่น เขาก็ลดแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่สามารถทำงานได้ หวังว่าทุกอย่างคลี่คลายไปแล้ว เขาจะได้ทำงานในสิ่งที่เขาชอบ”