ที่บริเวณเกาะลอย ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง นายสมชาย อินปาน รองนายก อบจ. นายวงรัตน์ เพชรตีป รองนายก อบจ. นายณัฐกิตต์ หนูรอด ปลัด อบจ. พร้อมผู้นำท้องที่ และเจ้าหน้าที่ อบจ.พัทลุง ร่วมกันปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม และกุ้งกุลาดำ ลงสู่ทะเลสาบ จำนวน 10 ล้านตัว โดยแยกไปปล่อยลงทะเลสาบในพื้นที่ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จำนวน 3,250,000 ตัว ปล่อยที่หน่วยพิทักษ์ป่าอ่าวท่ายาง ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน 3,250,000 ตัว และปล่อยที่ ต.ลำปำ จำนวน 3,500,000 ตัว เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคืนความอุดมสมบูรณ์สู่แนวลุ่มน้ำทะเลสาบ รวมทั้งตามแนวชายฝั่งลุ่มน้ำต่าง ๆ ทั้ง 9 ลุ่มน้ำของจังหวัดพัทลุง และเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาตอนใน

นายวิสุทธิ์ นายก อบจ.พัทลุง เผยว่า ทะเลสาบสงขลา เป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง รวม 12 อำเภอ โดยเฉพาะจังหวัดพัทลุง มีอำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน เขาชัยสน บางแก้ว และอำเภอปากพะยูน มีประชาชนจำนวนมากประกอบอาชีพทำการประมงในทะเลสาบ แต่การใช้ประโยชน์จากทะเลสาบอย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากการอนุรักษ์สัตว์น้ำอย่างเหมาะสม ทำให้สัตว์น้ำในทะเลสาบ ที่เคยอุดมสมบูรณ์มีปริมาณลดลง บางชนิดก็ใกล้จะสูญพันธุ์

ทั้งนี้ เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและคืนความอุดมสมบูรณ์สู่แนวลุ่มน้ำทะเลสาบและตามแนวชายฝั่งลุ่มน้ำต่างๆ ทั้ง 9 ลุ่มน้ำของจังหวัดพัทลุง และเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาตอนใน โดยกำหนดจุดปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม และกุ้งกุลาดำ ที่ทะเลสาบในเขตอำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน และอำเภอปากพะยูน จำนวน 10 ล้านตัว ซึ่งคาดว่าจะทำให้ระบบนิเวศลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและแหล่งน้ำต่างๆ ในจังหวัดพัทลุง มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และทำให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำต่างๆ ในจังหวัดพัทลุง สามารถหาสัตว์น้ำ เพื่อการดำรงชีพแบบวิถีพอเพียง ประชาชนที่ประกอบอาชีพจับสัตว์น้ำในทะเล พอมีรายได้จากการจับสัตว์น้ำด้วย.