กระแสตอบรับตอนพิเศษของรายการ “Last Idol Thailand” ได้รับความสนใจเกินคาด เนื่องจากเป็นเทปเปิดใจสมาชิกชั่วคราวหมายเลขต่าง ๆ และผู้ท้าชิงตั้งแต่แมทช์ที่ 1-3 แบบหมดเปลือกว่าก่อนและหลังการแข่งขันพวกเธอรู้สึกอย่างไรบ้าง

สัปดาห์ล่าสุด เจาะลึกความรู้สึกของอดีตสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 อย่าง “หงษ์หยก ควรประดิษฐ์” สาวน้อยน่ารักสุดสดใสที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับรุ่นพี่มาดเท่ “รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ” ผู้ท้าชิงคนที่ 4 งานนี้หงส์หยกถึงกับร่ำไห้เลยทีเดียว

หงส์หยก เผยว่า “ตอนที่เห็นพี่รันม่าแสดง เขาแสดงได้ดีมากนะคะ แต่หนูพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขเข้าไว้ ซึ่งพอได้ดูเทปตัวเองย้อนหลัง หนูชอบโชว์ของตัวเองมากค่ะ พอถึงตอนที่ตัดสินใจก็อยากให้พี่แพท เคลียร์ เป็นคนตัดสิน แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ใจหวัง พี่หนึ่ง อีทีซี ได้รับหน้าที่นี้ และเลือกให้พี่รันม่ามาแทนที่หนู หนูเสียใจถึงขั้นร้องไห้เลย เราถามตัวเองว่าความฝันของเราจะหยุดแค่นี้จริง ๆ เหรอ คือปกติแล้วหนูเป็นคนร่าเริง จนไม่คิดว่าวันนั้นหนูจะร้องไห้ได้ แต่พอเวลาผ่านไปเราก็มีความมุ่งมั่น และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น จะพยายามมากขึ้นเพื่อที่จะเป็นไอดอลต่อไปค่ะ”

ต่อกันด้วยความรู้สึกของผู้ท้าชิงคนที่ 5 “มินนี่-ณิชัญญา สุดประเสริฐ” เด็กสาววัย 14 ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะซุกซน ซึ่งงานนี้เธอเลือกที่จะสู้ข้ามรุ่นกับสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 “มีมี่-พิมพ์มาดา ตั้งสี” ที่อายุมากกว่าถึง 6 ปี งานนี้ถึงมินนี่จะไม่สามารถเอาชนะรุ่นพี่อย่างมีมี่ได้ แต่ความน่ารักของเธอก็ขโมยใจแฟน ๆ ไปเยอะเลยทีเดียว

มินนี่ เผยว่า “มินนี่แฮปปี้กับโชว์ของตัวเองนะคะ เพราะรู้สึกว่าเราทำได้ดีกว่าตอนซ้อม ตอนที่ดูโชว์ของพี่มีมี่จบก็รู้สึกว่าเขาโชว์ได้ดีมาก ซึ่งในใจก็คิดว่าถ้าชนะก็คงดีใจ แต่ถ้าไม่ชนะก็ไม่เป็นไรค่ะ ซึ่งพอพี่หนึ่ง อีทีซี กรรมการที่ได้รับสิทธิ์ตัดสินใจแมตช์นั้น ไม่เลือกหนู หนูก็ไม่ร้องไห้นะคะ เพราะหนูคิดว่าหนูยังมีเวลามากพอที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ”

ด้าน “แนล-แนลริยา วิภาคกิจ” ผู้ท้าชิงคนที่ 6 อดีตไอดอลสาวจากเชียงใหม่ ชี้เป้าขอท้าชิงสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 2 “ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล” ซึ่งสาวแนลเผยถึงสาเหตุที่เลือกตำแหน่งนั้นว่า “เพราะมุมนั้นหนูสวยค่ะ (หัวเราะ) ที่วันนั้นตอบแบบนั้น เพราะหนูพยายามสะกดความเครียดและกดดันเอาไว้ อยากจะเอ็นเตอร์เทนกรรมการและผู้ชมค่ะ ตอนโชว์เพลงแม่มด หนูกดดันและประหม่ามาก แต่เพลงนี้ก็เป็นตัวหนูนะคะ ส่วนโชว์ของพี่ม่านมุกฉายเดี่ยว ก็ชอบมากเลยค่ะ พอถึงเวลาตัดสินกดดันมาก เพราะพี่มด-ณปภัช เป็นไอดอลของหนูเหมือนกัน ตอนที่ประกาศว่าพี่ม่านมุกชนะ ก็มีช็อกบ้าง เสียใจ แต่ก็กลั้นไว้ ไม่อยากให้ใครปลอบในตอนนั้น และยิ่งพอรู้ผลว่าไม่มีกรรมการคนไหนเลือกหนูเลย ก็ยิ่งเสียใจเข้าไปใหญ่เลย เพราะอย่างน้อยถ้าได้สัก 1 คะแนนจะได้ให้แม่เอาไปบลัฟคนแถวบ้านก็ยังดีค่ะ (หัวเราะ)”

ต่อกันที่ “สาวน้อย-พิชญ์สินี อิทธิรัตนะโกมล” ผู้ท้าชิงคนที่ 7 ที่ร้องเพลงนิทาน โชว์สกิลและทักษะการร้องเพลงได้เป็นอย่างดี แต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่ “รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ” สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 เพราะกรรมการอย่าง ติ๊ก เพลย์กราวนด์ เลือกให้ รันม่า-แทนทยา ชิชิดะได้ไปต่อ

สาวน้อย เผยว่า “หนูก็พยายามโชว์อย่างเต็มที่นะคะ ก็มีแอบจับผิดตัวเองตลอด เห็นโชว์ของพี่รันม่า เขาเลือกร้องเพลงจับมือของฉันไว้ คนละแนวกับเพลงของหนูเลย ก็ลุ้นอยากให้กรรมการเลือกสาวน้อยนะคะ แต่พอกรรมการ พี่ติ๊ก เลือกพี่รันม่า ก็เสียดาย ภาพที่เราจะได้เต้นเพลง Bandwagon ก็ไม่ได้เต้นแล้ว แต่หนูก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว หลังโชว์จบลงหนูก็ได้อ่านคอมเมนต์ต่าง ๆ ทางโซเชียล ก็ดีใจที่มีคนชื่นชอบเราเหมือนกัน ก็พยายามเก็บรายละเอียดต่าง ๆ แล้วนำมาพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ”

ขณะที่ รันม่า-แทนทยา สมาชิกชั่วคราวหมายเลย 4 เผยความรู้สึกว่า “คำว่าสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 กดดันมากนะคะ แล้วพอเห็นโชว์ของน้องสาวน้อย เขาเป็นคนแรกที่ร้องเพลงดิสนีย์เลย และเขาทำได้ดีมาก แต่ในส่วนของรันม่าเอง ก็พยายามร้องและสื่อสารความรู้สึกออกมาในเพลงให้ได้มากที่สุด พอโชว์จบก็รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีกว่าตอนซ้อมเยอะ แต่หลังจากที่เทปที่รันม่าแข่งกับสาวน้อยจบไป ก็มีเสียงเชียร์สาวน้อยเยอะ หนูก็ยอมรับว่าโชว์ของเขาสดใสและร้องดีมาก แต่หนูก็ทำดีที่สุดแล้ว ก็ยอมรับว่าเราอาจจะไม่ได้ทำดีกว่าเขาหรือแย่กว่าเขา แต่ก็รู้สึกว่าหนูจะแข่งไปทำไม ในเมื่อมีแต่คนอยากให้หนูแพ้ค่ะ (ร้องไห้)”

ติดตามชมไฮไลต์เด็ด ๆ ที่ไม่เคยออนแอร์มาก่อนได้ในรายการ “Last Idol Thailand” ในวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.นี้ เวลา 12.30 -13.30 น. ทางช่อง 7 HD.