“ถ้ากระเป๋าสตางค์ตุง เหมือนพุง ก็คงดี เงินในบัญชีคือมายา บิลตรงหน้าสิของจริง…ไม่มีอะไรน่าเศร้า เท่าตายแล้วยังใช้เงินไม่หมด แต่….ที่น่าสลด เพราะใช้เงินหมด แต่ยังไม่ตาย”

ต้องยอมรับว่า โลกยุคนี้มันมีความทันสมัย มีเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกมากขึ้น อะไรที่ไม่น่าจะทำได้ ก็สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้าใช้อย่างถูกวิธีถูกกฎหมายก็คงไม่เป็นไร แต่หากนำมาใช้เพื่อมุ่งปองร้ายหรือใช้ในทางที่ผิด อะไรมันจะเกิดขึ้น

เรื่องนี้มันถูกเผยแพร่มาจากโลกโซเชียล ที่มีการแชร์คลิปการรายงานข่าวของการจับตัวคนร้ายแก๊งค้ายาเสพติด 3 ราย ที่พยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ก่อนที่ตำรวจจะจับกุมตัวไว้ได้ และตรวจยึด ยาไอซ์ 162 กิโลกรัม เฮโรอีน 120 แท่ง และเคตามีน 97 กิโลกรัม

ก่อนที่ผู้ต้องหาจะรับสารภาพวิธีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถเพื่อตบตาการตรวจสอบ ด้วยการเพียงแค่กดรีโมตเท่านั้น แล้วทะเบียนรถจากเลข 6 กม 6110 กรุงเทพมหานคร จะพับสลับไปอยู่ด้านใน ส่วนด้านหน้าจะปรากฏเปลี่ยนเป็น ฎห 7888 กรุงเทพมหานคร ใช้เวลาแค่ 3 วินาที เท่านั้น

ที่น่ากลัวคือภายหลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตหลายคนแห่เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นมากมาย แต่กลับแบ่งเป็น 2 ฝั่งได้ชัดเจน ซึ่งฝั่งหนึ่งชื่นชมไอเดียของแก๊งค้าขายที่มีความคิดสร้างสรรค์ และเลียนแบบจากหนังดังได้แนบเนียน แต่แค่เอามาให้ในทางที่ผิด ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็อยากให้มีกฎหมายเอาผิดแรงขึ้น เพื่อเป็นคดีตัวอย่าง เพราะการปลอมทะเบียนรถคือเจตนาไม่บริสุทธิ์ น่าปรับให้มากขึ้นคือยึดรถและติดคุก

ที่จริงตามกฎหมายแล้วกรมการขนส่งทางบก มีบทลงโทษเกี่ยวกับป้ายทะเบียนรถปลอมระบุไว้ว่า การใช้ป้ายทะเบียนปลอมจะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท

นอกจากนี้การใช้ป้ายแดงปลอมก็ถือว่าผิดกฎหมายด้วย โดยเข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารทางราชการปลอม มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีความผิดฐานใช้รถโดยไม่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทด้วย

แต่บทลงโทษที่ว่า กลับไม่ค่อยมีใครสนใจหรือเกรง แถมยังชื่นชมการใช้รีโมตกดเปลี่ยนทะเบียนรถอีกด้วย ทำให้น่ากลัว น่าจะส่งผลต่อการกระทำผิดในอนาคตหรือไม่

หลังจากนี้ตำรวจต้องละเอียดรอบคอบในการตรวจเช็กมากขึ้น จะมาตรวจผ่านๆ ไม่ได้อีกต่อไป ต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจตราแผ่นป้ายทะเบียน สังเกตความผิดปกติตามหลักยุทธวิธี เนื่องจากกลุ่มคนร้ายอาจจะใช้วิธีการดังกล่าว เพื่อใช้ในการขนย้ายสิ่งผิดกฎหมาย หรือกระทำความผิดอื่นๆ เพื่อตบตาและหลบเลี่ยงการติดตามจับกุม

แต่เท่าที่ได้ลองค้นหา “ป้ายทะเบียนพลิกซ้อน” ในโลกออนไลน์ กลับพบว่ามันมีการเสนอขายรีโมตกดเปลี่ยนป้ายทะเบียนพลิกซ้อนแบบนี้เต็มไปหมด มีราคาอยู่ระหว่า 5,000-6,000 บาท ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่า เป็นอุปกรณ์ผิดกฎหมาย หรือถ้าใช้จะมีความผิด

ลองคิดดูเล่นๆ ว่า ถ้ายังปล่อยให้ขายกันแบบโจ๋งครึ่มว่อนโซเชียลอย่างนี้ โจรผู้ร้ายจะยิ่งย่ามใจขนาดไหน รวมถึงเหตุร้ายเหตุอาชญากรรมจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้หรือไม่…แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

พร้อมรับเอเปค
พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเตรียมความพร้อมแก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยสถานที่พำนักผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ของ ภ.จว.สุโขทัย ณ ห้องประชุมวรรณกลาง ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ที่ผ่านมา ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วย พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สุโขทัย, ผกก.สภ.ทุ่งเสลี่ยม, ผกก.สภ.เมืองเก่า และข้าราชการตำรวจผู้เข้าอบรม จำนวน 413

ช่วยเหลือ ปชช.
ด.ต.ถวิล มีด้วง และ ส.ต.อ.ธนโยธิน กันหาเรียง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัดหนองตุ้มนก ถนนมลิวรรณ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีรถยนต์ของประชาชนติดหล่มไม่สามารถขับเคลื่อนได้ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือโดยการเข็นรถขึ้นจากโคลน จนสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ ที่มุ่งให้บริการประชาชนทุกระดับ อย่างรวดเร็วทันใจ

เป็นมิตรทุกเส้นทาง
ตำรวจทางหลวงขอนแก่นเป็นมิตรทุกเส้นทาง ภายใต้นโยบายอย่างชัดเจน พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2 กก 4 บก.ทล.ขอนแก่น หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านไผ่ นำรถวิทยุ 4201 ออกตรวจปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ มี ด.ต.กิตติกร โมหา พลขับ, ด.ต.เจษฎา โพธิ์ศรี เห็นรถจอดเสียข้างทาง ขับมาคนเดียว เป็นผู้สูงอายุ ลงไปช่วยเหลือรถเก๋งฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ฎษ 645 กรุงเทพมหานคร ระบบยางมีปัญหา โดยการช่วยเปลี่ยนยางและนำอุปกรณ์ช่วยเปลี่ยนยางจนสามารถเดินทางต่อไปได้ บน ทล.2 มิตรภาพ ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ทำความดีด้วยหัวใจ

จังหวัดสีขาว
จากเหตุการณ์ฆาตรกรรมหมู่ 36 ศพ ที่หนองบัวลำภู ทำให้เกิดปฏิบัติการนำไปสู่การถอดบทเรียนเพื่อ 3 ต. (ตรวจอาวุธปืน ตรวจยาเสพติด และตรวจสุขภาพจิต) เพื่อแก้ปัญหาสังคมวิฤกติ ในขณะที่รัฐบาลชูจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดนำร่องสีขาว จะสีขาวหรือสีเทา ภายในสิ้นปีนี้ คงจะมีการประเมินผลว่ารัฐบาลทำได้จริงจังขนาดไหน แต่ที่นี่เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังลงพื้นที่ติดตามผลงานเชิงประจักษ์ของ สภ.ศรีบุญเรือง ที่มี พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง พร้อมทีมงานประกอบด้วย พ.ต.ท.สุภี พลดงนอก รอง ผกก.ป.สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.ท.รักษา ไชยนา สวป.สภ.ศรีบุญเรือง ร.ต.ต.ประสิทธิ์ อินทร์เรืองศรี รอง สวป.สภ.ศรีบุญเรือง และชุดปฏิบัติการ แอ่นอกรับโล่เชิดชูเกียรติ ชุดปฏิบัติการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด สภ.ดีเด่น อันดับ 13 ของประเทศ ประจำปี 2565 โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบโล่เชิดชูเกียรติ นำมาซึ่งความหวังเพื่อก้าวไปสู่จังหวัดนำร่องสีขาวต่อไป งานนี้ พลตำรวจตรีพงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ต้องให้ขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานครับ….

ช่วยผู้บาดเจ็บ
พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ วงศ์ทรายทอง สารวัตรจราจร สภ.เมืองชลบุรี และ ร.ต.อ.หญิงวราพรรณ ประเสริฐศักดิ์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองชลบุรี เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชน ระหว่างเดินทางไปร่วมงานจิตอาสา ได้พบผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ถูกรถยนต์ ชนจนล้มลง บริเวณถนนพระยาสัจจาตัดถนนมนตเสวี (ปากทางเข้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี) จึงรีบลงจากรถแล้วช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ท่ามกลางความชื่นชมจากผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

**************************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป