ถ้ารวมเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมส่วนใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงสนามไปแล้ว 12 นัด (บางทีม 11 นัด) หรือยังไม่ถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาล

แต่ปรากฏว่ามีกุนซือตกงานเพราะถูกปลดไปแล้วถึง 4 คน หรือเกือบ ๆ 1 ใน 4 ของลีก โดย สตีเวน เจอร์ราร์ด คือเหยื่อรายล่าสุด

“สิงห์ผงาด” ภายใต้การนำของ “สตีวี จี” ถูกคาดหวังเอาไว้สูงพอสมควรในฤดูกาลนี้ แต่ความโชคร้ายคือหลายคนที่เข้ามาใหม่ไม่อาจเรียกฟอร์มเก่งได้อย่างที่คาด แถมคนที่ถูกดึงเข้ามาหวังให้เป็นหัวใจสำคัญในเกมรับอย่าง ดีเอโก คาร์ลอส ก็ดันมาเจ็บยาวไปตั้งแต่ต้นมือ

ส่วนคนที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นความหวังในแนวรุกอย่าง ฟิลิปเป คูตินโญ ที่ทีมดึงตัวมาตั้งแต่ซีซั่นก่อนและทำผลงานได้ดี กลับหายต๋อมไปกับสายลมอย่างเหลือเชื่อ โดยซีซั่นนี้เจ้าตัวลงเล่นไปแล้ว 10 นัด ยังไม่มีประตู แถมที่เหลือเชื่อคือยังไม่มีแอสซิสต์เลยสักครั้งเดียว (ยังไม่นับเกมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา)

สภาพทีมไม่ลงตัว นักเตะนัดกันฟอร์มหลุด ผลงานมันจึงออกมาตุปัดตุเป๋ และอันดับ 17 ของตารางคือสิ่งที่เจ้าของทีมชาวอเมริกัน รวมถึงแฟนบอลรับไม่ได้

เจอร์ราร์ด จึงต้องเก็บของออกจาก วิลลา ปาร์ก ด้วยประการละฉะนี้…

แต่จะว่าไป ช่วงเวลายังไม่ถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาล ถือว่าค่อนข้างโหดร้ายไม่น้อยหากจะใช้เป็นการตัดสินชะตาของกุนซือ ในยุคก่อนหน้านี้ บางทีมให้เวลาผู้จัดการในการปั้นทีมเป็นซีซั่น กุนซือนามอุโฆษอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ต้องใช้เวลากว่า 3-4 ฤดูกาลกว่าจะพา แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จ

แต่ในยุคปัจจุบัน ฟุตบอลคือธุรกิจเต็มตัว และธุรกิจฟุตบอลขับเคลื่อนด้วยผลการแข่งขัน เวลาสร้างทีมเป็นเรื่องที่นับวันจะไม่มีอยู่จริง และเมื่อผลการแข่งขันไม่ได้ คนเป็นโค้ชก็ต้องรับผิดชอบ

จะว่าโหดร้ายก็ใช่ แต่โลกทุกวันนี้มันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ…

ผยองเดช