เบื้องต้นจึงมีการสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาอาจเกี่ยวพันกับ “ลัทธิความเชื่อแปลก ๆ” ซึ่งกับบทสรุปชัด ๆ ของคดีนี้จะเป็นเช่นไรกันแน่?? ก็คงต้องตามดูกันต่อไป… อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมทั่วไป กับ “ลัทธิใหม่-ลัทธิแปลก” กรณีนี้ “ในไทยมีกระแสอยู่เนือง ๆ”…

“ลัทธิแปลก” ในไทยอื้ออึงแล้วหลายหน

ทำให้ผู้คนพากัน อึ้ง!!” แล้วหลายครั้ง!!

ทั้งนี้ เกี่ยวกับ “ปรากฏการณ์ทางสังคม” กรณี “ลัทธิใหม่-ลัทธิแปลก” ในเมืองไทย…ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้พลิกแฟ้มนำข้อมูลแง่มุมน่าคิดมาสะท้อนต่อไว้อีกครั้ง ซึ่งกรณีนี้ก็ “สะท้อนเรื่องราวในหลายมิติ” โดยใน “มุมวิชาการ” ก็ได้มีการติดตาม ศึกษา ค้นคว้า และวิเคราะห์เกี่ยวกับ “แนวความเชื่อที่แตกต่าง” เหล่านี้เช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีการสะท้อนไว้ผ่านบทความเรื่อง “ศาสนาในสังคมโลกสมัยใหม่” โดย ศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการเผยแพร่บทความดังกล่าวนี้ไว้ทาง เว็บไซต์ www.human.cmu.ac.th

“ฉายภาพปรากฏการณ์ลัทธิ” ที่เกิดขึ้น…

เกี่ยวกับ “ลัทธิใหม่ ๆ” กับ “สังคมโลกสมัยใหม่” ที่บางลัทธิ-บางความเชื่อนั้นก็สุดโต่งหรือพิลึกจนชวนให้อึ้งสุด ๆ นั้น กับคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้…ทาง ศ.ดร.อรรถจักร์ ได้ฉายภาพไว้ในบทความดังกล่าว โดยสังเขปมีว่า… ปรากฏการณ์เด่นชัดที่ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมิติของศาสนาในสังคมโลกสมัยใหม่ ก็คือ… “การเกิดขึ้นและขยายตัวของลัทธิพิธีใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น” โดยเกิดขึ้นพร้อมการลดน้อยถอยลงของศรัทธาในศาสนาหลัก” …ซึ่งการเกิดขึ้นและขยายตัวของลัทธิพิธีใหม่ ๆ เหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่นักวิชาการจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ และพยายามอธิบายปรากฏการณ์นี้…

เพราะ “ลัทธิพิธีใหม่ ๆ” ที่มีเกิดขึ้นมาก…

มักจะ “มีเป้าหมายต่างจากขนบศาสนา”

ทางนักวิชาการภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ได้อธิบายถึง “การแพร่ขยายของลัทธิใหม่” โดยระบุไว้ว่า… ทั่วโลกได้พบเห็นการเกิดขึ้นมาใหม่ของ “ลัทธิพิธีใหม่ต่าง ๆ ที่มีเป้าหมาย ความเชื่อ แตกต่างไปจากขนบและความเชื่อทางศาสนาแบบเดิม ๆ อยู่ตลอด เช่น สหรัฐอเมริกา มีลัทธิพิธีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากถึงราว 400 กลุ่ม ในช่วงทศวรรษ 1980 และอีกประเทศที่มีลัทธิพิธีใหม่ ๆ เกิดขึ้นไม่แพ้กัน ก็คือ ญี่ปุ่น ซึ่งก็มีลัทธิพิธีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย และการขยายตัวของลัทธิพิธีใหม่ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นนั้นก็ได้กลายเป็น “กรณีศึกษา” ที่ทำให้ทั่วโลกหันมาสนใจเกี่ยวกับการขยายตัวของลัทธิใหม่ ๆ แปลก ๆ

หลังเกิดกรณี น่าสะพรึง” ผู้คนตื่นกลัว

ลัทธิประหลาด ปล่อยแก๊สพิษฆ่าคน!!”

อนึ่ง จากเหตุการณ์น่าสะพรึงที่เกิดจากลัทธิใหม่…ก็ทำให้สังคมโลกมีทัศนคติเชิงลบต่อกลุ่มลัทธิใหม่ ทั้งนี้ ทาง ศ.ดร.อรรถจักร์ ได้มีการจำแนก “กลุ่มลัทธิพิธีใหม่” ที่พบ “ในสังคมสมัยใหม่” ไว้ว่า… สามารถ แบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม อย่างกว้าง ๆ ดังนี้คือ… กลุ่มที่เน้นตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน กลุ่มนี้จะเน้นความเชื่อเรื่อง ปาฏิหาริย์ หรือไสยศาสตร์ จากการบูชาเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในลัทธิพิธีนั้น, กลุ่มที่เน้นควบคุมจิตใจ เป็นกลุ่มที่มีความเชื่อเรื่องความพยายามเข้าใจในความเป็นมนุษย์ และการ ควบคุมจิตใจให้ดำเนินไปถึงเป้าหมายของลัทธิพิธี นั้น, กลุ่มที่เน้นความเชื่อเรื่องโลกแตก สำหรับกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งมีฐานมาจากความ เกลียดชังระบบสังคมที่เป็นอยู่ ต้องการสร้างโลกใหม่

และอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่เน้นมิติทางสังคม ที่จะเน้น ศีลธรรม ที่วางอยู่บนการ ช่วยผู้อื่น ช่วยสังคม หรือบางลัทธิได้เน้นเรื่องของการ สร้างมนุษยสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด อย่างมีจริยธรรม …เหล่านี้เป็นการจำแนก “กลุ่มลัทธิพิธีใหม่ที่พบในสังคมสมัยใหม่” ที่ทางนักวิชาการคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ท่านดังกล่าว ได้ระบุไว้ในบทความ

ทั้งนี้ สำหรับ ประเทศไทย มีการระบุไว้ว่า… ในสังคมไทยสมัยใหม่” ก็มีลัทธิใหม่” เกิดขึ้น เช่นกัน ซึ่งลัทธิใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในไทยนี่ ศ.ดร.อรรถจักร์ ชี้ไว้ว่า… ก็มิใช่ว่าลัทธิใหม่ที่มีเกิดขึ้นทุกลัทธิจะ ก่อปัญหาให้แก่สังคม ซึ่งก็มีลัทธิใหม่ไม่น้อยที่ไม่ได้มีปฏิบัติการที่รุนแรง เน้นให้สมาชิกปฏิบัติตน อยู่ในครรลองความสงบสันติสุข เช่นเดียวกับศาสนาหลักทั่วไป ขณะที่การเกิดขึ้นและขยายตัวของลัทธิพิธีใหม่นี้เป็น “ปรากฏการณ์สำคัญ” ที่สังคมไทยควรเรียนรู้-ทำความเข้าใจให้ชัดเจน

“ลัทธิพิธีใหม่” ที่มีเกิดขึ้นนั้น สะท้อนว่า…คนใน สังคมสมัยใหม่” มีความต้องการการอธิบายกระบวนการของชีวิต…อย่างที่มีความแตกต่างและหลากหลายมากกว่าคำอธิบายจากความเชื่อตามศาสนาดั้งเดิม เหตุนี้จึงทำให้มีคนจํานวนไม่น้อยหันเข้าหา ลัทธิพิธีใหม่” หวังจะแสวงหาคำตอบชีวิตที่ไม่เหมือนกับคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคม” …นี่เป็นคำอธิบาย “ปัจจัยผลักให้เกิดลัทธิใหม่” ที่ทาง ศ.ดร.อรรถจักร์ สะท้อนไว้ในบทความ “ศาสนาในสังคมโลกสมัยใหม่”

เน้นย้ำว่านี่มิใช่จะชี้ถึงกรณีอื้ออึงล่าสุด

แต่นี่ก็ย้ำ คำตอบชีวิตยุคนี้เปลี่ยนไป”

และ มีอื้อที่หาวิธีให้คำตอบชวนอึ้ง!!”.