เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ห้องสุทัศน์ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเครือข่ายสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงผลประชุมร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อหารือและร่วมพัฒนาแผนเศรษฐกิจสีเขียวชุมชนริมคลองฝั่งธนบุรีอย่างยั่งยืน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยได้นำเสนอเกี่ยวกับผลการศึกษา เกี่ยวกับการพัฒนาคลองและชุมชนฝั่งธนบุรี ทั้งในแง่ของพื้นที่สีเขียวและวิถีชุมชน โดยหลังจากที่ได้มีการประชุมร่วมกัน หลังจากนี้ทางกรุงเทพมหานคร มีแนวทางที่จะดำเนินการต่อ 2 เรื่องหลักๆ นั่นก็คือ 1.การปรับปรุงทางด้านกายภาพ เช่น การดูเรื่องการระบายน้ำทั้งการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ, การแก้ปัญหาน้ำเค็มที่ลุกลามเข้ามาในคลอง, การจัดการขยะและดูแลสภาพสิ่งแวดล้อมให้ดี, ทางเดินริมคลองให้คนเดินทางสะดวกขึ้นเชื่อมต่อ รถ ราง เรือ และปรับปรุงอุปสรรคต่างๆ ที่อยู่ภายในคลองเพื่อให้เรือสามารถเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับปรุงทางด้านกายภาพให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
2.เน้นชุมชนที่มีความเข้มแข็งและมีอัตลักษณ์ของตัวเอง โดยเข้าไปสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชน เพื่อให้สามารถมีรายได้และสร้างอัตลักษณ์สามารถอยู่รอดได้และยังคงวิถีชีวิตที่มีคุณค่าไว้ เช่น ชุมชนพูนบำเพ็ญ-เขตภาษีเจริญ ที่มีการช่วยกันรวมตัวกันทำโฮมสเตย์ และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา หรือชุมชนริมคลองบางมด ซึ่ง กทม.ก็คงเข้าไปดูแลชุมชนที่มีศักยภาพแบบนี้ พัฒนาเขาให้ชุมชนสามารถ ดูแลตัวเองได้ สร้างอัตลักษณ์ตนเองได้ แล้วเอาโมเดลนี้ขยายต่อไปยังชุมชนอื่น ซึ่งในบางชุมชนได้มีการทำเป็นโมเดลตั้งแต่คณะผู้บริหารชุดที่ผ่านมาแล้ว
ทั้งนี้ จากการศึกษาพื้นที่ริมคลองฝั่งธนบุรีของสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พบว่า ทั้ง 4 ชุมชน เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงระบบนิเวศ วัฒนธรรมของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เป็นของแต่ละชุมชน ที่มีความพร้อมในการพัฒนา ประกอบด้วย ชุมชนพูนบำเพ็ญ-เขตภาษีเจริญ, ชุมชนตลาดพลู-เขตธนบุรี, ชุมชนคลองบางมด-เขตทุ่งครุ-บางขุนเทียน และ ชุมชนคลองบางประทุน-เขตจอมทอง
ดร.วิจารย์ กล่าวว่า เป็นโครงการศึกษาวิถีชุมชนดั้งเดิม ทั้งในส่วนของสังคม สิ่งแวดล้อม ซึ่งฝั่งธนบุรีจะมีวัฒนธรรมดั้งเดิม ส่วนพื้นที่สีเขียวก็ยังดีอยู่ โดยจะนำสิ่งที่กทม.มีอยู่ไปส่งเสริมการท่องเที่ยว และการมีชีวิตยั่งยืนกับสภาพธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องของสภาพธรรมชาติ เป็นสภาพที่จะรองรับเรื่องของการดูแลสภาพภูมิอากาศได้ดี ซึ่งเราจะสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ซึ่งสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมทำงานด้านวิชาการ ที่จะไปขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เกิดความยั่งยืนต่อยอด สิ่งแวดล้อมอยู่ได้ ชุมชนอยู่ได้ มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงเรื่องผังเมืองที่เราจะทำงานร่วมกันต่อไป.
