ซึ่งเหตุการณ์ที่ ก่อเกิดความสูญเสียต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง…รวมถึงฝ่ายที่หึงโหดเอง เกิดครึกโครมในสังคมไทยต่อเนื่อง… ซึ่งแม้เรื่องแบบนี้จะมิใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย เป็นเรื่องร้ายที่มีเกิดขึ้นมานานแล้ว และผลร้ายก็เป็นที่ประจักษ์กันมาตลอด แต่…

“หึงโหด!!” ยังคงเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน…

ซ้ำยังดูจะ “เกิดแบบรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ”

จน “กลายเป็นอีกเทรนด์มรณะ” ในไทย

ทั้งนี้ กับ เหตุการณ์น่าสลด-เหตุการณ์ความสูญเสียอันน่าเศร้า ในลักษณะนี้ แค่ในช่วงเดือนสองเดือนมานี้ก็เกิดขึ้นครึกโครมในสังคมไทยไม่น้อยเลย!! เช่น… วันที่ 11 ก.ย. ที่ จ.ชลบุรี มีเหตุหนุ่มต่างชาติบุกห้องเช่าใช้ปืน “ยิงแฟนสาว” กลางวงอาหาร ด้วยเหตุ “หึง” ต่อมาวันที่ 12 ก.ย. ที่ จ.ชลบุรี เช่นกัน มีเหตุหนุ่มช่างรายหนึ่ง “ฆ่าชายอื่นที่คิดว่าคบหากับภรรยาของตน” เป็นอีกเหตุการณ์ “โหด” ที่เกิดเพราะ “หึง” ขณะที่ฝ่ายภรรยาระบุว่า ไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ถูกฆ่า

ถัดมาอีกวัน…วันที่ 13 ก.ย. ที่กรุงเทพฯ มีเหตุ “อดีตสามีสาดน้ำกรดใส่หน้าอดีตภรรยา” โดยมีรายงานข่าวในเบื้องต้นว่าอดีตสามีรายนี้ยังหวังให้อดีตภรรยากลับมาคืนดีกันอีกครั้งแต่ยังไม่สมหวัง และต้องการให้อดีตภรรยาวัย 25 ปีหาสามีใหม่ไม่ได้จึงลงมือก่อเหตุ“โหด” ในลักษณะดังกล่าว และให้หลังเหตุการณ์นี้อีกราว 1 สัปดาห์ ในวันที่ 21 ก.ย. ก็เกิดเหตุ น่าสลด-น่าเศร้า ที่เกี่ยวข้องกับ “หึง” ที่ จ.ชลบุรี อีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นกรณี “ชายวัย 27 ปีรายหนึ่งถูกแทงตายเพราะหึงแฟนเก่า” ซึ่งจากรายงานข่าวในเบื้องต้นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากชายรายนี้ได้บุกไปหาเรื่องแฟนใหม่ของอดีตแฟนสาว

เดือน ก.ย. 2565 “หึงมรณะ!!” เกิดถี่ยิบ

แล้วข้ามสู่เดือน ต.ค. ก็ยิ่ง “น่าตกใจ!!”

เข้าสู่วันแรกของเดือน ต.ค. 2565 ในวันที่ 1 ต.ค. ที่ จ.สมุทรปราการ ปรากฏข่าวเหตุที่ก็เข้าข่าย “หึงมรณะ!!-หึงโหด!!” ที่ “ยิ่งน่าตกใจมาก!!” ขึ้นอีกครั้ง โดย “ชายวัย 35 ปี รายหนึ่งฆ่าหั่นศพหญิงวัย 30 ปี” ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง แล้วนำไปทิ้งใต้ทางด่วน แต่ที่สุดก็ถูกจับกุมตัวได้ โดยผู้ที่ก่อเหตุสารภาพว่าที่ลงมือก่อเหตุนั้นเนื่องจากฝ่ายหญิงซึ่งเป็นแฟนกับตนเริ่มตีตัวออกห่างเพราะจับได้ว่าตนเองนั้นมีภรรยาอยู่ก่อนเเล้ว …ซึ่งพฤติการณ์กรณีนี้ “ยิ่งน่าเศร้าใจ-ยิ่งน่าสลดใจ”…

เช่นเดียวกับเหตุที่เกิดในวันที่ 9 ต.ค. ที่กรุงเทพฯ “ชายวัย 60 ปี ดักยิงหญิงวัย 47 ปี ที่เคยอยู่กินฉันสามีภรรยา” หลังฝ่ายหญิงพยายามจะเลิกกับฝ่ายชายที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง ซึ่งก่อนหน้าฝ่ายหญิงก็เคยแจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายชาย คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว และพกพาอาวุธปืน โดยฝ่ายชายถูกจับ แต่ได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน และออกมาวางเพลิงเผาทรัพย์ฝ่ายหญิง แล้วมาดักยิงฝ่ายหญิงเสียชีวิต ก่อนหนีกลับ จ.พัทลุง และ “ยิงตัวตาย” ในภายหลัง

เหล่านี้คือกรณีตัวอย่าง “รักเป็นพิษ”…

ที่กลายเป็น “รักมรณะ-หึงมรณะ” อื้อ!!

เกี่ยวกับ เหตุการณ์ที่ก่อเกิดความสูญเสียต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง…รวมถึงฝ่ายที่ก่อเหตุเอง ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเพศชายก่อเหตุนั้น… ที่ผ่านมา “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็สะท้อนแง่มุมสู่สังคมไทยไว้เนือง ๆ ซึ่งจากการที่เหตุการณ์ “รักมรณะ!!” เหตุการณ์ “หึงมรณะ!!-หึงโหด!!” มีแนวโน้ม “ลุกลามหนักในไทยมากขึ้น!!” อย่างตอนนี้…ก็ขอสะท้อนย้ำไว้อีกครั้ง…

สะท้อนย้ำกันไว้ว่า… เรื่องร้ายเรื่องนี้ ต้องป้องกันตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง รวม 3 ระดับ ดังที่ทางหัวหน้าสาขาจิตวิทยาคลินิก ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผศ.ดร.อรพิน สถิรมน ได้เคยให้คำแนะนำผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ ซึ่งโดยสรุปมีว่า… ระดับครอบครัว พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ในครอบครัว ควรจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ ในครอบครัว ด้วยการ “ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา” ส่วนการป้องกัน ระดับสังคม นั้น ผู้คนในสังคม ทุกฝ่ายในสังคม ก็จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาความรุนแรง จากเรื่องรัก-เรื่องหึง รวมถึงจากเรื่องอื่น ๆ ด้วย โดย “ร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ไร้ความรุนแรง” เช่น การไม่สร้างถ้อยคำหรือแสดงพฤติกรรมรุนแรงผ่านสื่อต่าง ๆ

ขณะที่ ระดับบุคคล แม้ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับการ “เสริมสร้างวุฒิภาวะทางอารมณ์” เพื่อป้องกันเกิดพฤติกรรมความรุนแรง โดยอาจฝึกควบคุมอารมณ์…โดยเฉพาะยามโกรธ พยายามคิดก่อนทำให้มาก ๆ เช่น คิดถึงผลกระทบที่ครอบครัวจะต้องได้รับจากการกระทำเกี่ยวกับความรุนแรงให้มาก ๆ…“บางคนอาจมีอารมณ์โมโหรุนแรง หรือรักแรงหึงแรง ก็เลยเลือกใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา…” “ก็รู้กันดีว่า…ความรุนแรงไม่ใช่วิธีแก้ ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ และยังเพิ่มปัญหาชีวิตให้มากขึ้นไปอีก…” “ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการอยู่ดี…”…ทาง ผศ.ดร.อรพิน ระบุไว้

ทั้งนี้ ณ ที่นี้ก็ขอสะท้อนเสริมคำแนะนำข้างต้นไว้ด้วยว่า… “หึงจนเหี้ยม!!-หึงจนโหด!!” นั้น “มิได้ก่อเกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น!!” แม้แต่ความคิดสะใจ-สาแก่ใจก็เถอะ…เพราะที่สุด “เสียใจ” ต่างหากที่จะ “ยึดครองพื้นที่ความคิด” จนหมด

“หึงโหด!!” นั้น “ได้โปรดอย่าเลียนแบบ”

“ไม่รักก็ปล่อยไป” นี่สิ “ดีที่สุด-เท่สุด”.