เมื่อวันที่ 29 ก.ย. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.ชัยนาท พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ เจ้าที่ฝ่ายสืบสวนธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ธันวาภรณ์ วงศ์แสน อายุ 34 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นายพชร ปทุมมานนท์ อายุ 29 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา และนายอับดุลมานาฟ หะยีหมะ อายุ 25 ปี ชาว จ.สงขลา ตามหมายจับ ของ สภ.เมืองเชียงราย ในข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีเพื่อน าออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนรู้ว่าเป็นธนบัตรของปลอมหรือเป็นธนบัตรปลอม” พร้อมของกลาง 1. ธนบัตรปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1,139 ฉบับ รวมมูลค่า 1,139,000 บาท 2. ธนบัตรปลอม ฉบับละ 500 บาท จ านวน 60 ฉบับ รวมมูลค่า 30,000 บาท 3. เครื่องพิมพ์ (พรินเตอร์) จำนวน 2 เครื่อง 4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน งน 1614 เชียงใหม่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง สาขาชุมชนเด่นห้า ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ได้มาแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ว่ามีผู้นำธนบัตรปลอม ฉบับละ 1,000 บาท มาซื้อของ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด จนกระทั่งสืบสวนทราบว่าผู้ที่นำธนบัตรปลอมมาซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อ คือ นายอับดุลมานาฟ ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จึงเดินได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเชิญตัว นายอับดุลมานาฟ มาสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงราย
โดยนายอับดุลมานาฟ หะยีหมะ ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ที่นำธนบัตรปลอมไปทำการซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อจริง และจากการตรวจค้นตัวของนายอับดุลมานาฟ พบธนบัตรปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ฉบับ และมีหมายเลข 2 ก 9502582 ตรงกันทั้ง 5 ฉบับ
ต่อมาได้สืบสวนขยายผลนายอับดุลมานาฟ ได้ให้ข้อมูลว่า ได้สั่งซื้อธนบัตรปลอมจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ในชื่อ “มารูโกะ จัง” โดยสั่งซื้อธนบัตรปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ ในราคา 1,300 บาท ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการล่อซื้อธนบัตรปลอม และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สืบสวนธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขยายผลไปถึงต้นตอแหล่งผลิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้ทำการล่อซื้อธนบัตรปลอมจากผู้ขายธนบัตรปลอมเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท มื่อ น.ส.ธันวาภรณ์ ได้ส่งธนบัตรปลอมของกลาง จำนวน 55 ใบ ผ่านบริษัทขนส่งเอกชน สาขาจังหวัดแพร่ มาให้ตามที่ตกลงแล้ว จึงได้ทำการตรวจยึดและขยายผลจับกุม น.ส.ธันวาภรณ์ และนายพชร ปทุมมานนท์ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้พบว่าเป็นสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นการจับรายใหญ่สุดในรอบ 8 ปี.