เมื่อผู้กระทำความผิดจงใจทำร้ายทางเพศต่อผู้เยาว์ทางร่างกาย จิตใจ หรือโดยการละเลย การกระทำความผิดดังกล่าวถือว่าเป็นอาชญากรรม และเรียกว่าการล่วงละเมิดเด็ก บทความนี้จะเน้นเฉพาะเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และสัญญาณเตือนว่าอาชญากรรมนี้อาจกำลังเกิดขึ้น

การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เป็นรูปแบบหนึ่งของการล่วงละเมิดเด็กที่มีกิจกรรมทางเพศกับผู้เยาว์ เด็กไม่สามารถยินยอมให้มีกิจกรรมทางเพศทุกรูปแบบได้ เมื่อผู้กระทำผิดเกี่ยวข้องกับเด็กในลักษณะนี้ ผู้กระทำความผิดกำลังก่ออาชญากรรมที่อาจส่งผลถาวรต่อเหยื่อเป็นเวลาหลายปี การล่วงละเมิดทางเพศเด็กไม่จำเป็นต้องรวมถึงการสัมผัสทางร่างกายระหว่างผู้กระทำความผิดกับเด็ก

การล่วงละเมิดทางเพศเด็กบางรูปแบบ รวมถึง การแสดงอนาจาร อวดอวัยวะเพศหรือส่วนที่เป็นของสงวนบนร่างกายแบบโป๊ ๆ หรือเปิดเผยตนต่อผู้เยาว์, กอดรัด ลูบไล้ เล้าโลม, การมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่อวัยวะเพศ, การช่วยตัวเองต่อหน้าผู้เยาว์หรือบังคับผู้เยาว์ให้ช่วยตัวเอง, การสนทนาลามก การโทรศัพท์ การส่งข้อความ หรือการโต้ตอบทางดิจิทัล, การผลิต เป็นเจ้าของ หรือแบ่งปันภาพหรือภาพยนตร์อนาจารของเด็ก, การมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบหรือใด ๆ กับผู้เยาว์ รวมทั้งทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก, การค้ามนุษย์ทางเพศ และการติดต่อในลักษณะทางเพศอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้เยาว์

ผู้กระทำความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กมีลักษณะอย่างไร? ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่เด็ก หรือครอบครัวรู้จัก เหยื่อที่อายุต่ำกว่า 18 ปี พบว่ามากถึง 93 เปอร์เซ็นต์ รู้จักผู้กระทำความผิด ผู้กระทำผิดไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่เพื่อทำร้ายเด็ก เหยื่อสามารถมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับเด็ก รวมถึงพี่น้องที่อายุมากกว่าหรือเพื่อนร่วมเล่น สมาชิกในครอบครัว ครู โค้ชหรือผู้สอน ผู้ดูแล หรือผู้ปกครองของเด็กอีกคน จากข้อมูลของ 1 ใน 6 ระบุว่า “การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เป็นผลมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ฉวยโอกาสจากความอ่อนแอของเด็ก และไม่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศของผู้ถูกล่วงละเมิดแต่อย่างใด”.

—————————————————–
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล