ซึ่งเมื่อปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดหนึ่งได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับ “เด็กหญิงวัย 10 ขวบ” คนหนึ่ง ที่ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขัง ถูกทำร้ายร่างกาย นับตั้งแต่เดือน เม.ย. หลังเด็กหญิงคนนี้ได้ “ถูกพ่อแม่ขาย” ให้กับคนอื่น!! ซึ่งหลังจากเรื่องราวของเด็กหญิงผู้โชคร้ายรายนี้ได้ถูกเปิดเผยออกมา ก็ทำให้หลาย ๆ คนที่ได้รับรู้เรื่องราวเกิด “ปุจฉา??” เนื่องจาก “วิธีการ-รูปแบบ” ที่เป็นเหตุให้เด็กหญิงรายนี้ต้องเผชิญกับ “เรื่องเลวร้าย” ในชีวิต ดูแล้วคล้ายคลึงปัญหาใหญ่ในอดีต…
ปัญหา “ตกเขียว” ที่ในอดีตเกิดขึ้นมาก
ที่หายไปจากการรับรู้ของผู้คนนานแล้ว
หรือยุคนี้ปัญหานี้ก็ “ยังไม่สูญพันธุ์??”
สำหรับคนรุ่นเก่า ๆ นั้น ก็น่าจะรู้ความหมายของ “ศัพท์” คำว่า “ตกเขียว” แต่หากเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ก็อาจจะไม่คุ้นกับศัพท์คำนี้สักเท่าไหร่?? เพราะคำ ๆ นี้เลือนหายจากการรับรู้ของสังคมไปค่อนข้างนานแล้ว ซึ่งใน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายศัพท์คำนี้ไว้ว่า… คือ วิธีการที่นายทุนทำสัญญาซื้อขายข้าว หรือผลไม้ ตามที่ได้ตกลงเอาไว้กับชาวนา ชาวสวน หรือชาวไร่ โดยเน้นทำสัญญาตอนที่ข้าวหรือผลไม้ยังอ่อนอยู่ และนายทุนจะได้ข้าวเปลือกหรือผลไม้ไปหลังจากนวดข้าวแล้วหรือเมื่อผลไม้นั้นแก่เต็มที่แล้ว จนเป็นที่มาคำว่า “ตกเขียว” นั่นเอง
นอกจากนี้ คำว่า “ตกเขียว” นั้นยังมีอีกความหมายหนึ่ง ซึ่งพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ระบุไว้ว่า… ตกเขียวยังหมายถึง การที่พ่อแม่รับเงินจากนายทุนซึ่งจ่ายให้เป็นค่าตัวเด็กผู้หญิงไว้ล่วงหน้า แล้วนายทุนจะมารับตัวเด็กไปเพื่อนำไปค้าประเวณี เพื่อเป็นการใช้หนี้คืนให้แก่นายทุน …นี่เป็นความหมาย “ตกเขียว” อีกกรณี ซึ่งเดิมนั้นมีที่มาจาก “วิธีทำสัญญาซื้อขายพืชผล” ระหว่างนายทุนกับเกษตรกร ก่อนจะถูกนำมาใช้เปรียบเทียบ “การซื้อขายเด็กหญิง”
ทั้งนี้ “ตกเขียวเด็กหญิง” เคยเป็น “ปัญหาสำคัญ” ของไทยในอดีต โดยเกิดปรากฏการณ์ตกเขียวเด็กเพื่อรอนำไป “ค้าบริการทางเพศ” มาก ซึ่งทางรัฐก็พยายามจัดการปัญหามาตลอด จนต่อมาคำว่าตกเขียวค่อย ๆ เลือนหายไป จนเมื่อเกิดเรื่องราวดังที่ระบุข้างต้น ก็ทำให้ “คำว่าตกเขียว” นั้น “รีเทิร์น” กลับมา ซึ่งนอกจาก “คำ”…กับประเด็น “ตกเขียวจะแห่คืนชีพหรือไม่??” ก็มีมุมสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จาก จะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ว่า…
“เป็นไปได้สูงที่ตกเขียวแห่ฟื้นคืนชีพ!!”
กับการที่ระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ปัญหา “ตกเขียวเด็กเพื่อรอค้าบริการทางเพศ” จะแห่ฟื้นคืนชีพนั้น จะเด็จ ระบุว่า… เพราะส่วนตัวมองว่า “มีปัจจัยที่จะทำให้วงจรอุบาทว์นี้ฟื้นคืนชีพกลับมา” คือ…เกิดมาจาก “ปัญหาปากท้อง-วิกฤติหนี้ครัวเรือน”
ที่ยุคนี้อยู่ในระดับสูงมาก ๆ รายได้เลี้ยงปากท้องของผู้คนหดหายมาก ซึ่งส่วนหนึ่งก็ยึดโยงจาก “พิษโควิด-19” ที่ลาม “กระทบกับเศรษฐกิจภาคครัวเรือน” ด้วย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า… ถ้าเศรษฐกิจรากหญ้ายังไม่ฟื้น หรือไม่มีทางใดจะเยียวยาประชาชนระดับล่างได้ สังคมไทยจะได้พบเจอเรื่องราว “ตกเขียว” แบบนี้กันอีกเรื่อย ๆ…
ทาง ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ยังสะท้อนถึงกรณี “ตกเขียวฟื้นคืนชีพ” ผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาอีกว่า… เรื่องนี้หากเกิดขึ้นชัดเจนก็จะสะท้อนว่า…โครงสร้างของประเทศไทยยังเป็นปัญหา?? ตอกย้ำว่าโครงการต่าง ๆ ของรัฐที่เข้าไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนเกิดความไม่ทั่วถึง?? ซึ่งบางครอบครัวอาจไม่มีทางเลือกจนเกิดการ “ขายลูกแลกเงิน” โดย จะเด็จ ยังบอกว่า… ก่อนจะมีกรณีข้างต้นที่ทำให้ผู้คนนึกถึงคำว่า “ตกเขียว” นั้น จริง ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีอยู่หลายกรณีที่เข้าข่าย “กึ่งตกเขียว” อย่างเช่นพ่อแม่ตกงาน ไม่มีงานทำ แล้ว พ่อแม่นำลูกออกไปเร่ขายบริการทางเพศเอง!! อย่างนี้เป็นต้น
ทั้งนี้ ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ส่งสัญญาณถึงสังคมไทยว่า… ทุกภาคส่วนควรจะต้องเร่งรีบจัดการปัญหานี้ เพราะ… “มีแนวโน้มว่าวงจรตกเขียวจะกลับมารุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ไทยกำลังมีเด็กต้องหลุดจากระบบการศึกษาจำนวนมาก” โดยเฉพาะ “กลุ่มครอบครัวเปราะบาง” ที่ถือเป็น “กลุ่มเสี่ยงสูงที่สุด” โดยครอบครัวเปราะบางที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ เช่น ไม่มีงานทำ ตกงาน ขาดรายได้ แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย หรือโครงการช่วยเหลือของรัฐเข้าไม่ถึงคนกลุ่มนี้ ก็อาจทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกว่าไม่มีทางเลือกในชีวิต และมีโอกาส “สุ่มเสี่ยงสูง” ที่จะ “เข้าสู่วังวนวงจรตกเขียว”
เพื่อจะ “ต่อชีวิต” ก็ “ยอมทำทุกหนทาง”
“สังคมต้องเข้าใจว่า…บางคนที่ทำแบบนี้เพราะหมดทางเลือกแล้ว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าถ้ามีทางเลือกอื่น เช่น มีพื้นที่ให้มีอาชีพหรือทำอาชีพได้ หรือเข้าถึงแหล่งทุนนำมาต่อยอดทำมาหากินได้ คงไม่มีใครอยากทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้หรอก ซึ่งภาพแบบนี้ไม่ใช่ว่ากำลังจะเกิด แต่ในอดีตก็มีให้เห็นมากมาแล้ว และค่อย ๆ จางไปจากการรับรู้ของสังคม ก่อนจะมีแนวโน้มกลับมามากอีกในยุคนี้ ซึ่งตกเขียวมีแนวโน้มจะคืนชีพกลับมารุนแรงอีก…สังคมก็ต้องร่วมกันหาคำตอบว่า…เพราะอะไร??” …นี่ก็เป็นมุมสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จาก ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล
ล่าสุด “คำว่าตกเขียว” นั้น “รีเทิร์นแล้ว”
“ตกเขียวมนุษย์” นี่ “มีแววแห่คืนชีพ??”
“เรื่องเลวร้าย” เช่นนี้ “ต้องสกัดด่วน!!”.
