ผ่านงานในวงการบันเทิงและบทบาทต่างๆมาแล้วมากมายสำหรับพระเอกหนุ่มสุดฮอต อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ก็ทำให้หนุ่มอาเล็กเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆและมีแนวคิดทัศนคติต่อวงการที่เปลี่ยนไปและโตขึ้นมากๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่อาชีพนักแสดงต้องหยุดชะงักลง ทำให้ความมั่นคงที่มี ไม่มีอีกต่อไป
ล่าสุดหนุ่มอาเล็กได้เผยมุมมองความคิดของตนเองต่อเรื่องนี้ไว้อย่างดีมากๆ รวมถึงอัพเดทสถานะหัวใจให้รู้ด้วยว่าตอนนี้มีใครจับจ้องหรือยัง yimyimทนไม่ไหวแล้ว ไปคุยกับหนุ่มอาเล็กกันจ้า
ตอนนี้ยังอยู่ในโมเม้นต์เหงาหรือว่ามีคนคุยแล้ว?
“เรื่องความรักเหรอครับ (ยิ้ม)บางทีผมก็สงสัยนะว่า…ทำไมคนหล่ออย่างผมเนี่ย ทำไมไม่มีแฟน (หัวเราะ) ล้อเล่นครับคือตอนนี้ไม่มีเลย แห้งอ่ะ อย่างเนี่ยวันนี้ใช้มือถือตัวเองในการไลฟ์นะ ใช้วิดีโอคอลด้วยหรือมีหลายๆรายการต่อด้วย เมื่อกี้มีมาแล้ว 2 รายการแล้ว นี่ยังไม่มีใครโทรมาเลย ก็เหงาๆเลยแบบว่าร้าง (ยิ้ม)”
“เอาจริงๆถามว่าอยากมีไหมคนส่วนใหญ่อยากมีแฟนแหละ พูดอย่างนี้แล้วกัน ด้วยความที่เราเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้วและเราก็ได้เจอ ได้มีประสบการณ์ในเรื่องความรักที่ดีมากๆมาเสมอ มันเลยทำให้เราคิดเยอะขึ้นในการที่เราจะคุยกับใครสักคน มีปัจจัยหลายอย่างมากขึ้นในการที่เราจะเริ่มต้นกับใครสักคนมันก็เลยยังเงียบอยู่ครับ”
คิดเยอะขึ้นเรื่องรัก แปลว่ามีรักครั้งต่อไปคิดถึงขั้นแต่งงานแล้วใช่ไหม?
“ใช่ครับ อย่างที่บอกด้วยอายุคือตอนนี้ 31 ปีแล้ว จริงๆเพื่อนเล็ก เพื่อนในกลุ่มทุกคนผู้ชายนะ เล็กมีกลุ่มเพื่อนผู้ชายอย่างเดียวใช่ไหม วันนั้นเล็กเพิ่งสัมภาษณ์ไปรายการนึงแล้วคิด เออว่ะ ทุกคนมีแฟนกันหมดแล้ว และก็จะแต่งงานกันหมดแล้ว บางคนก็แต่งงานแล้ว บางคนมีลูกแล้ว แต่มีเล็กคนเดียวในกลุ่มที่ไม่มีแฟน ก็เอ่อว่ะ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราต้องเร่งตัวเองหรือว่ารีบมีแฟนอะไรอย่างนี้นะ อย่างที่บอก เราก็ต้องคิดเยอะขึ้น ปัจจัยเยอะมากขึ้น เราก็อยากได้คนที่เข้ามาเติมเต็มเราได้จริงๆ ซัพพอร์ตกันจริงๆอะไรประมาณนี้ เราก็ยังหาคนๆนั้นไม่เจอเฉยๆ”
ตอนนี้วางสเปกยังไง?
“อืม…ผมไม่ซีเรียสเลยว่าจะเป็นคนใน คนนอกวงการ จะสวยหรือไม่สวย คือความสวยเนี่ยมันอาจจะดึงดูดให้เราเข้าหาได้ในช่วงแรกแบบว่าเอ้ยคนนี้มันน่ารักจังเลย คนนี้สวยจังเลย มันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ในการที่อย่างน้อยสายตาเราไปมองเขา ไม่ว่าจะเจอตัวจริงหรือในโซเชียล สายตามันไปมองเขาได้อยู่แล้ว แต่ว่า มันก็คือแค่นั้น แค่เริ่มต้น เราจะรู้สึกได้ตั้งแต่เราเกิดมาแบบเอ้ย บางคนตอนเราเจอครั้งแรกเขาไม่ได้สวยขนาดนั้นนะ แต่ทำไมรู้จักกันไป เป็นเพื่อนกันไป สนิทกันไปแล้วทำไมเออความน่ารักเขาค่อย ๆ ออกมา แล้วเหมือนเขาดูสวยขึ้นในสายตาเราขึ้นมาอะไรอย่างนี้ เล็กว่ามันอยู่ที่ตรงนี้มากกว่า เลยไม่ได้เอาหน้าตา ความสวย ความน่ารัก หรือดูดี บุคลิกดีมามอง ในช่วงต้นขนาดนั้น แต่มันปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วที่ ที่เราเป็นผู้ชายคนนึงหรือทุกคนจะมองภายนอกก่อน มันปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะมองตรงนั้นก่อน แต่ว่าไม่ได้เป็นเกณฑ์สำคัญที่จะมาเลือกหรือตัดสินว่าใครจะมาเป็นแฟนเรา เราจะคุยกับใคร”
ตอนนี้ยังใช้สถานะว่าโสดอยู่ใช่ไหม?
“โอ้โห จะใช้อย่างอื่นได้ไงครับ ไม่มีแม้แต่คนคุยจะใช้อย่างอื่นได้ไง(หัวเราะ)”
เติบโตอยู่ในวงการมานานเท่าไหร่แล้ว ได้อะไรจากวงการบันเทิงบ้าง?
“ปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว(ยิ้ม)สิ่งที่ได้เลยคือความคิดเรา เล็กรู้สึกว่าพอเราโตขึ้นเรื่อยๆ ความคิดเรามันก็จะมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาในความคิดอยู่เรื่อยๆ เป้าหมายจะเปลี่ยนไปตลอด ความตั้งใจกับเรื่องต่างๆมันจะเปลี่ยนไปตลอด อย่างตอนนี้เราเองก็รู้สึกว่าโอเค ตอนนี้การแสดงมันคืออาชีพหลักของเล็ก ก่อนหน้านี้เราจะรู้สึกว่าเราโชคดี ได้มีโอกาสที่ดี มีผู้ใหญ่มอบหมายงานดีๆให้ได้รับ ให้ขึ้นมาเป็นพระเอกทั้งๆ ที่เรารู้สึกว่าเรามองย้อนกลับไปใน 4-5 ปีที่แล้วรู้สึกว่าเราไม่ได้มีความสามารถหรือว่าคุณภาพพอที่จะได้มายืนอยู่ตรงนี้ เราเราโชคดีมากๆที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ แล้วเมื่อก่อนเราอาจจะรู้สึกว่าเราทำงานไปตามสิ่งที่เราได้รับมอบหมาย เราตั้งใจนะ เต็มที่กับมัน แต่ว่าเราเองอาจจะไม่ได้มองเห็นคุณค่าของมันมากเท่าทุกวันนี้ มุมมองของเราต่อการแสดง ต่อวงการบันเทิงมันเปลี่ยนไปอีกอย่าง คือเราตอนนี้รู้สึกว่าการเล่นละครแต่ละเรื่อง การรับบทตัวละครแต่ละตัวเนี่ยเราให้ความสำคัญกับมันเยอะขึ้น รู้สึกว่ามันเป็นงานคราฟท์ งานฝีมือมากขึ้น แล้วรู้สึกว่ามันทำให้เรามองตัวละครได้ลึกขึ้น มองตัวคนอื่น แม้แต่มอง ในชีวิตจริงเรามองคนอื่นได้ลึกขึ้น เราพยายามทำความเข้าใจมันเยอะขึ้น นั่นน่าจะเป็นข้อดีของโตมาจนถึงทุกวันนี้”
“แล้ววงการก็ให้อะไรเราเยอะมากพอสมควร ที่สำคัญตอนนี้มีโควิดเอาจริงๆนะ เล็กตั้งแต่เข้าวงการมาเรามีน้ำท่วม เรามีนู่นมีนี่ มีวิกฤตการณ์ธรรมชาติ มีนู่นมีนี่ ไม่มีสักอย่างที่ทำให้วงการบันเทิงต้องหยุดชะงักโควิดนี่เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับทุกคนแหละ แต่ว่าวงการบันเทิงไม่เคยหยุดชะงักเลย จนมีโควิดมันทำให้นักแสดงอย่างเราที่พูดตรงๆว่าหากินกับวงการ เนี่ยหากินกับการเล่นละคร ออกรายการ ออกอีเวนท์ เราหายไปหมดเลย มันทำให้เราได้คิดถึงอย่างอื่นในชีวิตมากขึ้นว่าโอเคสิ่งที่เราได้ยินมาสมัยก่อนมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดที่ว่าวงการบันเทิง หรือว่าอาชีพนักแสดง การเป็นพระเอกมันไม่ได้ยั่งยืน มันจริงนะ มันก็เลยทำให้เล็กมองเห็นความสำคัญของการแสดงมากขึ้นด้วย ว่าโอเค เนี่ยคืออาชีพของฉัน การแสดง นักแสดงคืออาชีพของฉัน เราจะมาทำมันแบบส่งๆไม่ได้แล้วนะ เราจะต้องอยู่กับมันให้ดีที่สุด เมื่อเราเลือกแล้วว่านี่คืออาชีพที่เรารักจริงๆเราจะต้องเรียนรู้มัน ศึกษามันให้ดีที่สุดในทุกๆวันครับ”
ยังมองอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพหลักอยู่ไหม?
“มันก็ยังเป็นอาชีพหลักอยู่ครับ แต่ว่าเราเองก็ต้องไม่หยุดคิด เราเองก็ต้องคิดถึงความมั่นคงในตัวเราเองในอนาคตด้วย มันก็เหมือนกับทุกๆคนตอนนี้ น้อยคนที่จะทำงานอยู่อย่างเดียว เช่น พนักงานออฟฟิศยังมีรับจ๊อบอื่น หรือทำนู่นทำนี่เพิ่ม หลายคนทำอาหารขาย ทำนู่นทำนี่ขาย เราเองก็เหมือนกัน เราเองก็ต้องมองหาความมั่นคง มองหาสิ่งที่จะมาเสริมความมั่นคงให้กับชีวิตเราในอนาคตเหมือนกัน ตอนนี้เรามีแล้ว โอเค ถือว่าเรามีต้นทุนที่ได้เปรียบคนอื่น นั่นคือความโชคดีของเล็กมากๆ แต่ว่าเราเองก็ยังต้องคือตอนนี้เรา 31 ปีแล้วก็จริง แต่เรายังต้องมีชีวิตอยู่อีกตั้งกี่ปีอะเพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาทางที่จะทำให้เรามั่นคงไปเรื่อยๆให้ได้ ต้องไม่หยุดคิด ต้องขยัน ที่สำคัญเล็กเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย เราต้องห้ามล้มนี่คือความกดดันอีกอย่างนึงในชีวิตของเรา”
ฝากผลงานสักหน่อย?
“ล่าสุดฝากผลงานเรื่องแค้นรักสลับชะตาด้วยครับ ไม่อยากให้พลาดเลยเพราะเป็นการพลิกคาแรกเตอร์ของผมเลย และเมื่อดูละครแล้วก็อยากให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ดูแลตัวเองเยอะๆนะครับ ไว้หลังจากโควิดเจอกันครับ”
แหม…หล่อ เท่ แถมยังโสดอีก อย่างนี้ใครอยากยื่นใบสมัครก็ส่งไปหาหนุ่มอาเล็กได้นะ บอกเลยหนุ่มคนนี้น่ารักและแสนดีมากๆจ้า ><
————————————–
คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”
โดย “yimyim”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @lekteeradetch