สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่า กลุ่มตาลีบันประกาศการยึดเมืองเอกอย่างน้อย 9 แห่ง จากทั้งหมด 34 แห่งในอัฟกานิสถาน ได้แก่ ไฟซาบาด ไฟราห์ ปุล-อี-คุม-รี ซาร์-อี-ปุล เชอเบอร์กัห์น ไอย์บัค ตูลูกัน ซารัง และคุนดุซ โดยการยึดเมืองเหล่านี้เกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา 
หากคำนวณเฉพาะการยึดเมืองเอกของจังหวัดแต่ละแห่ง คิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 แต่หากประเมินจากการขยายอิทธิพลในภาพรวม ปรากฏว่า กลุ่มตาลีบันควบคุมพื้นที่ได้ไม่น้อยกว่า 65% ของทั้งอัฟกานิสถาน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในสหภาพยุโรป ( อียู ) โดยการรุกคืบของกลุ่มตาลีบันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว "และง่ายดาย" นับตั้งแต่กองทัพสหรัฐเริ่มการถอนทหารชุดสุดท้าย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ หลังประจำการมานาน 20 ปี และในช่วงหนึ่งเคยมีทหารอเมริกันและพันธมิตรประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานรวมกันมากกว่า 100,000 นาย
ชาวอัฟกานิสถานจำนวนมากรวมตัวกันบริเวณจุดผ่านแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งติดกับปากีสถาน ด้วยความหวังว่า จะได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยจากการรุกคืบของกลุ่มตาลีบัน
ขณะที่แหล่งข่าวหลายคนให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเอเอฟพี และอัล-จาซีรา ว่ากลุ่มตาลีบันสามารถควบคุมท่าอากาศยานนานาชาติคุนดุซได้สำเร็จ หลังยึดสถานที่ราชการเมืองในเมืองแห่งนี้ได้ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากทหารอัฟกานิสถานเป็นฝ่ายยอมวางอาวุธและถอนกำลังออกมาจากพื้นที่ ซึ่งการสูญเสียเมืองคุนดุซ เมืองเอกของจังหวัดคุนดุซ และเมืองไฟซาบาด ถือเป็นความสูญเสีย "ครั้งใหญ่หลวง" 

เนื่องจากเมืองคุนดุซเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นเส้นทางโลจิสติกส์สายสำคัญในแถบนี้ ส่วนเมืองไฟซาบาด เมืองเอกของจังหวัดบาดัคห์ชาน เป็นจุดเชื่อมต่อกับทาจิกิสถาน ปากีสถาน และจีน
ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของรัสเซียรายงานว่า กลุ่มตาลีบันสามารถยึดครองจุดผ่านแดนทั้งหมด ที่เชื่อมต่อระหว่างอัฟกานิสถาน กับทาจิกิสถานและอุซเบกิสถาน เท่ากับเป็นการควบคุมพื้นที่ทั้งหมดตามแนวชายแดนทางเหนือ "ได้โดยปริยาย" แม้กลุ่มตาลีบันให้คำมั้นจะไม่มีการข้ามพรมแดน แต่พล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมของรัสเซีย กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลมอสโกจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.

เครดิตภาพ : AP