บรรยากาศหยุดสุดสัปดาห์ช่วงนี้ เริ่มชักจะเหมือน “โหมโรงเลือกตั้ง” เข้าไปแล้วทุกที ทั้งพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้าน นำคณะใหญ่เดินสายลงพื้นที่เกือบทั่วประเทศอย่างคึกคัก ราวกับว่ากลิ่นอายเลือกตั้งกำลังใกล้มาถึง!!
ไม่เว้นแม้กระทั่ง “พี่น้อง 3 ป.” แยกกันลงพื้นที่ ไล่จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาการนายกรัฐมนตรี และ หน.พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไปลุยภาคอีสาน ใครจะไปเชื่อ “นายกฯ ป้อม” วัย 77 ปี กระชากวัยในลุคกางเกงยีน เสื้อแจ๊กเกต รองเท้าผ้าใบ มาดเท่ทะมัดทะแมงผิดหูผิดตา ส่วน บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไปตรวจน้ำท่วมภาคกลาง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะถูก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ใกล้จะครบ 1 เดือนแล้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีตำแหน่ง รมว.กลาโหม ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ระยอง
ภาพของ พี่น้อง 3 ป. แห่งบูรพาพยัคฆ์ ที่จับมือกันมาอย่างเหนียวแน่น ตั้งแต่ยังเป็นทหารหนุ่มรับราชการ เติบโตมาด้วยกันจาก ค่ายทหารเสือราชินี หรือ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ทั้งหมดต่างก้าวหน้าได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของกองทัพบก เป็น ผบ.ทบ. กันทั้ง 3 พี่น้องตามลำดับ
กระทั่ง 22 พ.ค. 2557 เมื่อน้องเล็ก บิ๊กตู่ ตัดสินใจเป็น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาสานำกองทัพเข้ามายึดอำนาจ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายหลังรัฐประหาร 3 เดือน วันที่ 24 ส.ค. 2557 ได้มีโปรดเกล้าฯ ลงมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ จะถูกดึงมาช่วยงาน กับภารกิจใหญ่บริหารประเทศชาติ ตามคำมั่นสัญญาจะปฏิรูปบ้านเมือง เพื่อคืนความสุขให้ประเทศไทย
หากนับจาก 24 ส.ค. 2557-24 ส.ค. 2565 ไม่ต้องคิดกันให้สลับซับซ้อน ถือว่า 8 ปีเต็ม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้เงินเดือนละ 125,590 บาท (เงินเดือน 75,590 บาท, ค่าตำแหน่ง 50,000 บาท) ช่วงนี้ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี-PMOC ก็พยายามนำผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้บริหารประเทศ 8 ปี มานำเสนออย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลงานการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมของประเทศเชื่อมโยงภูมิภาค, โครงการคนละครึ่ง ที่ขยับมาถึงเฟส 5, ความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง, ส่งเสริมผลิตข้าวอินทรีย์, แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 จะประกาศใช้ 1 ต.ค.65 ฯลฯ
แต่อีกมุมที่เป็นเสียงสะท้อนออกมาจากทั้งฝ่ายค้านและประชาชน เฝ้าถามมาตลอดมีผลงานปฏิรูปอะไรสำเร็จแบบจับต้องได้บ้าง? หวังจะเห็นการปฏิรูปอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นกับบ้านเมือง สุดท้ายยังคงเหมือนเดิม เจาะไปแค่หน่วยงาน ตำรวจ-ทหาร ที่อยู่ในกำกับดูแลรับผิดชอบโดยตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังปฏิรูปไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เดือนที่แล้วโดน ลากไส้ให้เห็นระบบอุปถัมภ์ จากคดี “ส.ต.ท.หญิง” ไม่รู้บทสรุปจะเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ ล่าสุดยังมีคดี “สิบเอก” พฤติกรรมพยายามล่วงละเมิดเพื่อนร่วมงานหญิงหลายครั้ง ในหน่วยกลับมองเป็นเรื่องธรรมดา “ให้ใจเย็น ๆ กินข้าวหม้อเดียวกัน อย่าทำให้หน่วยเสียหาย” จนเหยื่อทนไม่ไหวไปร้องขอความช่วยเหลือสื่อ คราวนี้เรื่องราวฉาวโฉ่ของกองทัพก็ถูกตีแผ่ออกมา
ถ้าย้อนกลับไป 16 ปีก่อน “19 ก.ย. 2549” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. นำกองทัพออกมารัฐประหาร เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ ทำลับลวงพรางยึดอำนาจ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนถึงการฟื้นฟูรัฐบาลภายใต้ระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการ “รัฐประหารเสียของ” เมื่อมีรัฐประหารเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง “22 พ.ค. 2557” โดยฝีมือของ พล.อ.ประยุทธ์ คราวนี้คงไม่อยากเสียของ ขึ้นนั่งเก้าอี้บริหารประเทศลุยปฏิรูปเองมา 8 ปีเต็ม ๆ แล้ว
สุดท้ายก็ส่อแวว ปฏิรูปล้มเหลว ปัญหาบ้านเมืองวนเวียนอยู่ในอ่างไม่พอ ยังมี “ระบอบ 3 ป.” ผุดขึ้นมา เพื่อต่อท่ออำนาจผูกขาดให้พวกพ้องตัวเองในอนาคตอีก สภาพเลยไม่ได้แตกต่างจาก กลุ่มผลประโยชน์การเมือง ก่อนรัฐประหารแต่อย่างใด!!.
———————–
เชิงผา
