แต่ที่ผ่านมาแรงงานกลุ่มนี้ “เป็นเหยื่อกันไม่น้อย” มีทั้งที่ถูกใช้ความรุนแรง ถูกคุกคามทางเพศ ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับสิทธิการคุ้มครองจากทางนายจ้าง ซึ่งนี่ก็ “บั่นทอนเครดิตไทย-คนไทย” ทั้งนี้ “ปัญหาที่แรงงานหญิงข้ามชาติต้องเผชิญ” นั้น มีไม่น้อยที่…
“ตกเป็นเหยื่อซ้ำ ๆ อยู่กับวังวนเก่า ๆ”
ซึ่งก็ “เพราะไม่มีทางออก-ไม่มีช่องทาง”
ติดขัดในการที่จะ “ขอความช่วยเหลือ”
กับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่ม “แรงงานหญิงข้ามชาติในไทย” นี้ วันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูลความพยายามช่วยเหลือโดยภาคีองค์กรเครือข่ายที่ทำงานด้านนี้ ที่นอกจากให้ความรู้ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจและรู้ถึงสิทธิที่ตนเองพึงมีแล้ว ยังมีความพยายามที่จะ “พัฒนาช่องทางช่วยเหลือ” ในกรณีที่แรงงานกลุ่มนี้ตกเป็นเหยื่อ “ผ่านทางเทคโนโลยีดิจิทัล” หรือสามารถใช้งานทาง “แอพพลิเคชั่น” ผ่าน “โทรศัพท์สมาร์ทโฟน” ในกรณีที่ “ต้องการความช่วยเหลือ”
มีการเปิดตัว “แอพช่วยเหลือ” เมื่อเร็ว ๆ นี้
โดยมีชื่อว่า… “Smart Domestic Workers”
เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น “Smart Domestic Workers” นี้ เรื่องนี้ทาง ดร.บุญสม น้ำสมบูรณ์ เลขาธิการ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (Homenet Thailand) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรภาคีเครือข่ายที่ทำงานด้านแรงงานนอกระบบ ให้ข้อมูลกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ว่า… ในการประชุมนานาชาติที่จัดโดย มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เมื่อปี 2563 กับหัวข้อ “การให้ความช่วยเหลือแก่แม่และเด็กแรงงานข้ามชาติอพยพในปัจจุบัน” ก็ได้ถูกนำมากล่าวถึงในเวทีนี้ หลังสถานการณ์การย้ายถิ่นฐานเข้ามาในไทยนั้น มีจำนวนผู้อพยพเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นราว 4 ล้านคน จนกล่าวได้ว่า…
“ไทยเป็นศูนย์รวมหลักแรงงานอพยพ”
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาในประเทศไทยเหล่านี้ มีประมาณ 3 ล้านคนเท่านั้นที่มีเอกสารยืนยันตัวตน หรือได้ลงทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นชาวเมียนมา ชาวกัมพูชา และชาว สปป.ลาว เป็นหลัก โดยมีการคาดการณ์ว่า…ในจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ จำนวนครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่ม “แรงงานหญิง”ที่เข้ามาทำงานในไทย ที่ก็มีบทบาทและเป็นกลไกสำคัญในภาคธุรกิจต่าง ๆ ในฐานะ “ประชากรทางเศรษฐกิจ” ของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม แม้แรงงานหญิงข้ามชาติกลุ่มนี้จะสำคัญต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทย แต่ แรงงานกลุ่มนี้ต้องเผชิญปัญหาหนัก ทั้งการถูกคุกคามทางเพศ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำงานหนัก โดยไม่มีสิทธิคุ้มครอง ซึ่งกรณีที่หนักสุดคือ “ตกอยู่ในวังวนการค้ามนุษย์” ที่เรื่องนี้เป็นปัญหาของไทยและอาเซียนซึ่งเป็นอีกปัญหาที่มีมายาวนานและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ มักไม่ค่อยได้รับความสนใจที่จะพูดถึง มากนัก!!!…
“สาเหตุที่ทำให้ปัญหายังคงอยู่คือ…ความเงียบจากความกลัวที่จะมีปัญหากับนายจ้าง หรือกลัวถูกส่งกลับ ไม่สามารถอยู่ทำงานต่อได้ ขณะเดียวกันการขาดความรู้เกี่ยวกับสิทธิ รวมถึงการเข้าไม่ถึงหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ปัญหานี้ยังคงดำเนินอยู่” …ทาง ดร.บุญสม ชี้ปัจจัยที่ทำให้ปัญหานี้ยังไม่หายไป
และจากปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จึงจำเป็นที่จะต้องมีการสื่อสารให้ความรู้และข้อมูลแก่ “แรงงานหญิงข้ามชาติ” รวมทั้งรณรงค์ให้สังคมไทยตระหนักว่า…ถ้าสังคมช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา ไม่มองข้ามปัญหานี้ ปัญหาเหล่านี้ทุกคนก็สามารถช่วยเหลือได้ ซึ่งหนึ่งในความพยายามที่จะ “ช่วยเหลือแรงงานหญิงข้ามชาติที่เป็นเหยื่อ” นั้น ทางมูลนิธิฯ ได้ทำการพัฒนา Mobile Application ที่ชื่อ “Smart Domestic Workers” ขึ้นมา โดยหวังให้เป็นอีกช่องทางเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ รายละเอียดของแอพนี้ ดร.บุญสม แจกแจงว่า… ภายใน “Smart Domestic Workers” จะประกอบด้วย… “ชุดความรู้” ที่มีเนื้อหาต่าง ๆ อาทิ สัญญาณความรุนแรงในครอบครัว, คำแนะนำเพื่อวางแผนความปลอดภัย, การคุกคามทางเพศในที่ทำงาน, ทำอย่างไรเมื่อถูกข่มขืน, สิทธิของผู้เสียหาย และเส้นทางสู่ความยุติธรรมเมื่อถูกละเมิดทางเพศ นอกจากนั้นยังมี “แผนที่ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์” กับ “รวมสายด่วนขอความช่วยเหลือ” และหมวด “ข่าวสารและกฎหมาย” ที่เกี่ยวข้อง เช่น จรรยาบรรณลูกจ้างทำงานบ้านในไทย และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ เป็นต้น
ขณะที่ “การใช้งานแอพ” นั้น ได้พัฒนาออกแบบให้รองรับ “แรงงานหญิงข้ามชาติ” ที่มาจากหลายประเทศ โดยจะ “มีคำบรรยาย 4 ภาษา” ให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ ได้แก่…ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาเมียนมา ภาษากัมพูชา ซึ่งแอพนี้ได้เปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดย ดร.บุญสม ย้ำว่า… ไม่เพียง “แรงงานหญิงข้ามชาติ” ที่ควรโหลดแอพนี้เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ เผื่อจำเป็นต้องใช้ในกรณีฉุกเฉินกับ คนไทยทั่ว ๆ ไปก็น่าโหลดแอพ “Smart Domestic Workers” นี้ไว้ เช่นกัน…
เพื่อ “ใช้ทำความเข้าใจที่ถูกต้อง” กรณีนี้
และก็เพื่อ “ใช้ในการร่วมกันช่วยเหลือ”
“ร่วมกันจัดการพวกใจโฉดค้ามนุษย์!!” .
