อินโดนีเซียมีความสำคัญในฐานะ “ผู้นำโดยพฤตินัย” ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส บิดาของมาร์กอส มีส่วนร่วมในการก่อตั้ง เมื่อปี 2510 ทั้งนี้ ความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทางทะเล คือการที่ภูมิภาคแห่งนี้อยู่คร่อมเส้นทางเดินเรือที่คับคั่งที่สุดในโลก ระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ทะเลและช่องแคบของภูมิภาคเป็นรากฐานสำคัญ ต่อความมั่นคงทางทะเลของประเทศ และของโลก

ภายใต้การบริหารของมาร์กอสรุ่นลูก ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับอินโดนีเซียอย่างลึกซึ้งต่อไป โดยความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศนี้ขยายอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2492 และตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมะนิลาและรัฐบาลจาการ์ตาได้ลงนามข้อตกลงด้านการป้องกันและความมั่นคงระดับทวิภาคีมาแล้วมากกว่า 20 ฉบับ ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน

CNN Philippines

อีกทั้งภราดรภาพของ 2 ประเทศหมู่เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ซึ่งไม่มีข้อพิพาทอาณาเขตที่โดดเด่น ยังยกระดับความสัมพันธ์ให้ไม่ห่างไกลจากการเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา ยิ่งไปกว่านั้น ฟิลิปปินส์ยังคงมองอินโดนีเซียในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ การเยือนอินโดนีเซียของมาร์กอส จูเนียร์ น่าจะเปิดประตูสู่การพัฒนาขีดความสามารถด้านการป้องกันของฟิลิปปินส์ และการยกระดับความสามารถและสมรรถนะของบุคลากรในประเทศได้ อีกทั้งการจัดตั้งช่องทางการทูตใหม่ของฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เพื่อจัดการกับภัยคุกคามในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่านการปรับปรุงทางทหารให้ทันสมัย โดยเฉพาะการยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ

ด้วยการกล่าวถึงธรรมภิบาลมหาสมุทรในภูมิภาค อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์สามารถส่งเสริมความร่วมมือทางทะเลระดับภูมิภาคในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกในวงกว้าง รวมทั้งช่วยสร้างบรรทัดฐานตามกฎทางทะเล และการทำงานร่วมกันของกองทัพเรือต่าง ๆ ในปฏิบัติการทางทะเลข้ามพรมแดนและระดับพหุภาคี อีกทั้งยังจัดการปัญหาพื้นที่ลับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทางทะเล และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างระหว่างหน่วยงานทางทะเลที่ครอบคลุมเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ และเกาะสุลาเวสีเหนือในอินโดนีเซียด้วย

อย่างไรก็ดี ขณะที่โลกเข้าสู่ยุคหลายขั้วมหาอำนาจ และเศรษฐกิจอินโดนีเซียยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลมะนิลาควรคว้าโอกาสที่จะแสวงหาการปรึกษาหารือระดับสูง เพื่อพัฒนาผลประโยชน์ร่วมกัน.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS