“อย่าไปเสียดายกับเรื่องที่ผ่านมา แต่จงมีความสุขกับเวลาที่เหลือ…ธรรมชาติสร้างอุปสรรคขึ้นมา เพื่อให้เรารู้จักคำว่าการต่อสู้ในชีวิต”

ยาบ้าๆๆๆ ยานรกที่ไม่มีวันจบสิ้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีๆ ก็ไม่มีวันหมด ยาเสพติดสุดอันตรายที่ทำลายมาแล้วหลายหมื่นหลายแสนครอบครัว ไม่ใช่แค่ทำลายคนเสพเท่านั้น แต่ยังพังชีวิตคนรอบข้างกับผู้คนทั่วไป ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมอีกด้วย

คดีสะเทือนขวัญสุดสลดใจนี้เกิดขึ้นเมื่อตำรวจ สภ.เขาพนม จ.กระบี่ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่ริมถนนสายเขาพนม-ลำทับ หมู่ 2 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม ซึ่งที่เกิดเหตุอยู่ในป่าหญ้าริมถนน พบรถ จยย. ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน มีชิ้นส่วนกันชนของรถด้านหน้า ซึ่งคล้ายของรถเก๋งตกอยู่จำนวนมาก และยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ปลอก

ส่วนพงหญ้าพบศพผู้เสียชีวิต 3 ศพ อยู่ในพงหญ้าข้างถนนคือ นายนนทภัทร อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าที่ใบหน้า น.ส.ภัณธิรา อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าที่ด้านหลังทางซ้าย และ น.ส.ณัชนิชา อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าที่ด้านหลังซ้าย โดยทั้ง 3 คน เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนใน อ.เขาพนม

พยานที่เห็นเหตุการณ์และชาวบ้านข้างเคียง ทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ขี่รถ จยย. เพื่อมุ่งหน้าไปยัง อ.เขาพนม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ถูกรถเก๋งสีดำพุ่งมาชน จากนั้นคนขับเก๋งก็ลงมาชักปืนกระหน่ำยิงใส่แบบไม่ยั้ง ก่อนจะเผารถ จยย. ทิ้ง แล้วขึ้นรถหนีไปทาง อ.ลำทับ

การกระทำนี้มันช่วงโหดเหี้ยมและเลือดเย็นมาก ตำรวจคาดว่าคนร้ายคงจะโกรธแค้นกลุ่มวัยรุ่นอย่างที่สุด แต่ยังไม่ทราบที่สาเหตุที่แท้จริง ซึ่งพอจะรู้ว่าคนร้ายอายุประมาณ 40 ปี มีประวัติติดยาเสพติดหนักด้วย

กระทั่งไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ชุดสืบสวนก็สนธิกำลังกันไป ปิดล้อมอู่ซ่อมรถ เลขที่ 462 หมู่ 9 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม หลังสืบรู้ว่า ผู้ก่อเหตุขับรถมาหลบซ่อนตัว ก่อนจะพบรถบีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน 4 กน 4567 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สภาพหน้าขวามีรอยเฉี่ยวชน กระโปรงหน้ายุบ กระจกมองข้างขวาหลุดห้อย

ส่วนคนขับซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ทราบชื่อว่า นายธีรศักดิ์ บุญเรือง หรือ เสี่ยต้อย อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของอู่ และเป็นลูกชายของเศรษฐีภายในพื้นที่คนหนึ่ง

กำลังตำรวจพร้อมอาวุธและเครื่องกระสุนครบมือใช้เวลาปิดล้อมเกลี้ยกล่อมอยู่หลายชั่วโมง ท่ามกลางความระทึกขวัญ เนื่องจาก นายธีรศักดิ์ มีปืนอยู่ในมือ จนเวลาผ่านไปถึงรุ่งสาง นายธีรศักดิ์ ก็ตัดสินใจออกมามอบตัวในสภาพคล้ายคนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง ตำรวจจึงรีบคุมตัวไปสอบปากคำ

และที่น่าตกใจก็คือคำสารภาพของผู้ต้องหา ที่อ้างว่า ระหว่างขับรถจะกลับบ้าน ได้เฉี่ยวชนกับ จยย. ของนักเรียนชั้น ม.6 จากนั้นด้วยความที่เสพยาบ้าไป 2 เม็ด ก็เกิดหลอนคิดว่า กลุ่มนักเรียนกลุ่มนี้จะตามมาฆ่าจึงจำเป็นต้องฆ่าก่อน จึงคว้าปืนออกไปกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตทั้งหมด แล้วรีบกลับมาซ่อนตัวในบ้านพัก

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาที่บ้านมีฐานะร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี พ่อแม่เปิดอู่ซ่อมรถแต่ตัว นายธีรศักดิ์ มักมีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มักจะคลั่งยิงปืนอาละวาดในอู่ซ่อมรถจนพ่อแม่และชาวบ้านหวาดผวามาก

โดยที่ภรรยาของ นายธีรศักดิ์ หรือเสี่ยต้อย ก็ยืนยันว่า สามีมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติดจริง ตนและแม่ของสามีบอกตลอดให้เลิกเสพ แต่ก็เลิกไม่ได้ กระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ญาติของเด็ก ม.6 ทั้งสามรายต่างเดินทางไปรับศพที่ รพ. ก่อนจะนำไปบำเพ็ญกุศลท่ามกลางความเสียใจของพ่อแม่พี่น้องตลอดจนเพื่อนนักเรียนที่ทราบข่าว ทั้งหมดเรียกร้องให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคดีที่น่าหดหู่ใจที่สุด น้องๆ นักเรียนที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน ต้องมาจบชีวิตทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครต้องเจ็บแค้น และทั้งหมดอายุน้อยมาก ยังมีอนาคตที่สวยงามอีกยาวไกล แต่ต้องมาจบลงด้วยน้ำมือของไอ้ปิศาจทาสยาบ้า มันช่างสะเทือนใจเหลือเกิน ที่นี้ก็ต้องมารอดูกระบวนการยุติธรรมว่าจะจัดการได้เด็ดขาดอย่างไร หากเป็นอย่างที่ผ่านมา คือเคยเข้าคุกคดีฆ่าคนตายและยาเสพติด ก่อนจะได้ออกมาก่อเหตุครั้งนี้ หากครั้งนี้ยังได้ออกมาอีก..สังคมจะอยู่กันยังไง.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

มอบนโยบาย
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เป็นประธานปล่อยแถว เคารพธงชาติ และตรวจทรงผมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดรายบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด พร้อมมอบนโยบาย คำสั่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดูแลทุกข์สุขให้กับพี่น้องประชาชน เน้นย้ำการเข้าระงับเหตุคลุ้มคลั่งอาละวาด ต้องรัดกุมประสานผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วมเจรจา เตรียมกำลังให้พร้อม ปฏิบัติตามยุทธวิธี

มอบทุนสนับสนุน
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, คุณรุ่งรัตน์ เนาวรัตน์ ประธานแม่บ้านตำรวจ ภ.จว.บุรีรัมย์ เป็นประธานมอบเงินทุนสนับสนุน ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2565 โดยมี พ.ต.อ.สุวิจักขณ์ จันทร์เยี่ยม รอง ผบก.ปรก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก.ฝอ.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.บัญชา ศรีอนันต์ ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.บุรีรัมย์, คณะแม่บ้านตำรวจ ภ.จว.บุรีรัมย์ และข้าราชการตำรวจผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมโครงการ ณ หอประชุมชัยจินดา ภ.จว.บุรีรัมย์

ช่วยเหลือชาวบ้าน
ยุคนี้สังคมวันนี้กำลังย้อนยุคหาอดีตแห่งความเอื้ออาทรต่อกันและกัน ทุกคนเริ่มหันหน้าเข้าหากัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ถึงแม้นจะไม่ใช่ธุระตน แต่คนในสังคมจะมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้ ในขณะที่วงการตำรวจยุคใหม่ ต้องซื้อใจประชาชน ไม่ได้ทำหน้าที่ปราบปรามและจับคนเข้าคุกตะรางอย่างเดียว สำนักงานตำรวจแห่งชาติยุคใหม่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์รับผิดชอบประจำพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ไม่เว้นแต่สถานศึกษา 1 โรงเรียน 1 ตำรวจ สำหรับ สภ.ศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง ไม่ธรรมดานำพาข้าราชการตำรวจในสังกัดไม่ว่าจะเป็น พ.ต.ท.สุภี พลดงนอก รอง ผกก.ป.สภ.ศรีบุญเรือง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์ บูรณาการร่วมกับ นายธวัชชัย วงษ์แสน ปลัดอำเภอศรีบุญเรือง และชาวบ้านโคกม่วง ตำบลนากอก อำเภอศรีบุญเรือง ร่วมกิจกรรมจิตอาสาเราทำดี ล้อมรั้วลวดหนาม ซ่อมท่อระบายน้ำ เสร็จภารกิจชื้อใจชาวบ้านเป็นทั้งพ่อครัว คนเสิร์ฟ ร่วมทานข้าวร่วมกันกับชาวบ้าน หวังสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา และแสวงหาความร่วมมือในทุกๆ ด้าน.

สัมมนาเชิงปฏิบัติการ
วันที่ 7 ก.ย.65 พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก. พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.สส.ภ.จว.ฉช. ร่วมเปิดโครงการอบรมสัมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านการสืบสวน ให้แก่ข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็น นักสืบยุคใหม่ มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อไปใช้การสืบสวนจับกุมคนร้ายต่อไป ณ กก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา

แสดงความยินดี
ขอแสดงความยินดีกับพลตำรวจตรี อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ย้ายไปดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 และชาวเพชรบุรี ขอต้อนรับ พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี


************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป