The River has no return แปลความหมายว่า “สายน้ำไม่ไหลกลับ” เพื่อสื่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยปมวาระการเป็นนายกฯ ไม่เกิน 8 ปี
8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ควรเริ่มนับตั้งแต่เมื่อไหร่? ต้องนับตั้งแต่เริ่มกินเงินเดือนหลวงในตำแหน่งนายกฯ ครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค.57 เรื่อยมาจนถึง ส.ค.65 แล้วหลายคนดูเหมือนจะยิ่งชัดเจนไปแล้วว่า 8 ปีเมื่อไหร่? เมื่อ 2 อดีตมือร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 หารือกันไว้ในที่ประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เมื่อ 7 ก.ย.61 นี่แหละคือความ “ชัดเจน” ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
แต่จับอาการ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ยอมหยุด! ยังโชว์ภาพถ่ายออกมาหลายภาพ ขณะนั่งในห้องทำงานที่กระทรวงกลาโหม ดังนั้นจึงต้องถามกันตรง ๆ ว่า ขอให้ได้วิ่งอยู่ขอบเวทีก็เอาใช่มั้ย?
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกว่า ครม.ได้ปรับปรุงคำสั่งสำนักนายกฯ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาการ แล้วหากมีการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีเรื่องงบประมาณ จะต้องไปปรึกษานายกฯ ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งเพื่อให้มีอำนาจเต็มกับ พล.อ.ประวิตร
“สายน้ำไม่ไหลกลับ” นะครับ พล.อ.ประยุทธ์! แล้วต้องเข้าใจด้วยว่า พล.อ.ประวิตร มี “ดีเอ็นเอ” ของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์หลายเท่า! เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรคลุกคลีกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งมากกว่า ลงพื้นที่ใกล้ชิดกับชาวบ้านมากกว่า โดยไม่ต้องขนตำรวจนับพันคนไปดูแลรักษาความปลอดภัย
ถามว่าวันนี้มี ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ยืนเคียงข้างอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์กันมากน้อยแค่ไหน?
ดังนั้นการวินิจฉัยวาระ 8 ปี ไม่ว่าจะออกมาเป็นบวก หรือเป็นลบกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ขอให้เจ้าตัวทราบว่าคนไทยหลากหลายกลุ่มอาชีพไม่ได้มอง พล.อ.ประยุทธ์ในสถานะนายกฯ อีกแล้ว! เช่น 51 คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ กลุ่มแพทย์ชนบท กลุ่มราษฎร ฯลฯ ที่ออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
หรือว่าจะอยู่รอจับมือกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่มาประชุมเอเปคช่วงเดือน พ.ย.นี้ มันจะเท่ตรงไหน และเป็นเกียรติกับตัวเองแค่ไหน? เนื่องจากสังคมโลกรู้กันหมดว่าพล.อ.ประยุทธ์มาจากการรัฐประหาร แล้วแต่งตั้งคนเข้ามาร่างรัฐธรรมนูญไว้สืบทอดอำนาจผ่าน ส.ว.ลากตั้ง 250 คน แถมยังแต่งตั้งคนไปอยู่ในองค์กรอิสระเพียบ!
ที่สำคัญคือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่พวกเดียวกันเองแท้ๆ เขียนไว้เพื่อไม่ต้องการให้ใครเป็นนายกฯ ต่อเนื่องเกิน 8 ปี หรือว่าเขียนไว้เป็นกับดักเครือข่าย “ทักษิณ” แต่ดันถึงคิว พล.อ.ประยุทธ์ก่อนจึงนับเลขไม่ถูก ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมลาออก แต่ขอฝากอนาคตของตัวเองไว้กับศาลรัฐธรรมนูญ
“พยัคฆ์น้อย” ฝาก พล.อ.ประยุทธ์ว่าใกล้ไตรมาสสุดท้ายปี 65 ทั้งที่ควรเป็นช่วงการเงินสะพัด มีการจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก แต่ปัญหาเศรษฐกิจกลับถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งข้าวของแพง ไฟฟ้าแพง ส่วนค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ปรับขึ้นเท่าที่พรรคพลังประชารัฐเคยโม้ไว้ตอนหาเสียง และช่วง 7 เดือนปีนี้ ธุรกิจการค้าเจ๊งไปแล้ว 7.5 พันราย เพิ่มขึ้น 24%
ดังนั้นจึงต้องบอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่าควรจะพอแล้ว! อย่าดันทุรังต่อไปอีกเลย! 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนเจ็บตัวกันมากพอแล้ว หลังจากนี้จึงขอให้มีน้ำใจกับประเทศชาติและประชาชนบ้างเถอะ! เพราะถึงอย่างไรสายน้ำก็ไม่ไหลกลับ!
เมื่อสายน้ำไม่ไหลกลับ! มันก็มีธรรมะอยู่บทหนึ่ง “อกุศลมูล 3” คือ “โลภะ โมหะ โทสะ” ท่องไว้บ่อย ๆ น่าจะช่วยให้ พล.อ.ประยุทธ์คลายความทุกข์ไปได้บ้าง!!
—————————-
พยัคฆ์น้อย
