เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ตอนนี้ผมอายุ 67 ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมา 5 ปี แต่กินยาไม่ค่อยสม่ำเสมอ ระยะ 2 ปีให้หลังมานี้ จะมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย บางครั้งถึงขั้นจะเคยเป็นลมหากเดินขึ้นบันไดประมาณ 3-4 ขั้น จะมีอาการเหนื่อยมาก ใจสั่น หอบ และแน่นหน้าอก โดยทั่วไปมีเพศสัมพันธ์ไม่ค่อยบ่อยนัก นาน ๆ ครั้งถึงจะร่วมเพศ แต่ทุกครั้งที่ร่วมเพศก็จะสำเร็จทุกครั้ง มีอยู่หนึ่งครั้งที่กำลังร่วมเพศกับภรรยาอยู่จู่ ๆ เกิดเป็นลมขึ้นมา ภรรยาต้องนำส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นโรคหัวใจโต และกำลังอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลว ต้องเข้ารับการรักษานานหลายเดือนตอนนี้อาการดีขึ้นมาก สามารถเดินขึ้นบันไดได้หลายขั้นโดยที่ไม่มีอาการเหนื่อย หอบและเจ็บหน้าอกเลย แต่ปัญหาใหญ่คือไม่กล้ามีกิจกรรมทางเพศเพราะกลัวจะมีผลต่อโรคที่เป็นจนเกิดอันตรายได้ จึงตัดสินใจงดการร่วมเพศมาเกือบ 1 ปี อวัยวะเพศก็อ่อนตัวตลอดเคยปรึกษาหมอที่ดูแลแล้วหมอก็ให้ความมั่นใจ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงอยากมาปรึกษากับหมอโอที่คลินิก

ด้วยความนับถือ
สวัสดิ์ 67

ตอบ  สวัสดิ์ 67

ผู้ป่วยโรคหัวใจส่วนใหญ่จะสามารถร่วมเพศได้ใหม่ภายใน 4-6 สัปดาห์หลังจากหายจากอาการเจ็บป่วยถ้าไม่มีอาการเจ็บหน้าอกขณะออกกำลังกาย มีรายงานวิจัยในคนไข้กลุ่มที่เป็นโรคหัวใจจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ และกลุ่มที่ยังไม่เป็นโรคหัวใจแต่มีแนวโน้มที่จะเป็น การร่วมเพศไม่ได้ทำให้ร่างกายทำงานหนักมากเกินไป ทั้งการใช้ออกซิเจนของร่างกายระหว่างการร่วมเพศซึ่งน้อยกว่าการเดินขึ้นบันได 2 ขั้นเสียอีก ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะให้คนที่เป็นโรคหัวใจหยุดร่วมเพศหลังจากการพักรักษาตัวแล้ว 4-6 สัปดาห์ ถ้าสามารถออกกำลังกายได้ในระดับพลังงาน 6-8 แคลอรีต่อนาทีได้โดยไม่มีอาการผิดปกติของความดันโลหิตและชีพจร 

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการในขณะร่วมเพศควรกินยา และออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะทำให้สมรรถภาพทางเพศและการทำงานของร่างกายดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามความถี่ในการร่วมเพศของคนที่เป็นโรคหัวใจไม่ควรมาก กว่าที่เคยปฏิบัติอยู่ นอกจานนั้นเวลาที่เหมาะสมในการร่วเพศของคนที่เป็นโรคนี้ควรจะเป็นตอนเช้าหลังจากได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอก แน่นอึดอัดหรือเหนื่อยหอบ ก็ควรหยุดและรีบไปปรึกษาแพทย์ที่ดูแล แต่หากมีความจำเป็นต้องการงดร่วมเพศจริง ๆ การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองก็ต้องงดด้วย เพราะมีผลต่อร่างกายและหัวใจด้วยเช่นกัน ในกรณีที่สามารถร่วมเพศได้แต่เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมซึ่งเกิดได้บ่อยมากกับผู้ป่วยโรคหัวใจ

สิ่งที่อยากแนะนำคือห้ามกินยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์พีดีอี-5 เพื่อให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวเต็มที่ ควบคู่กับการใช้ยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรตที่ส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคหัวใจเพราะจะเกิดอันตรายมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถ้าต้องการให้ปลอดภัย ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจควรจะทราบชื่อยาที่หมอใช้ในการรักษา เช่น Imdur Isosorbide Manolin กลุ่มนี้คือกลุ่มไนเตรตจึงห้ามกินกับยา กลุ่มพีดีอี 5 ไอ เป็นอันขาด ให้ออกกำลังกายเบา ๆ แทน คือ ออกกำลังโดยเพิ่มเส้นเลือดฝอยให้มากขึ้นคู่กับการออกกำลังกายขยายกล้ามเนื้อเพศให้ใหญ่ขึ้นเท่าตัว จะสามารถแข็งตัวร่วมเพศได้นาน 30 นาที โดยไม่ต้องใช้ยาก่อนร่วมเพศเหมาะสำหรับโรคหัวใจมากที่สุด.

————————
ดร.โอ สุขุมวิท 51