เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ส.ค. น.ส.ธัญญาภัค ตันติปัญญากาน พร้อมด้วย น.ส.พาลินี นาชำ นายคมสัน เรืองศรี ชาว ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี และนายประพันธ์ สุทธิ ชาว ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.นิคม ขุนสะอาดศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เจ้าพนักงานของสำนักงานแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ที่หลอกแอบอ้างจำหน่ายโควตาลอตเตอรี่

น.ส.พาลินี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือน ส.ค. 65 น.ส.เอ มีพฤติการณ์หลอกลวงให้พวกตนร่วมลงทุนจำหน่ายลอตเตอรี่ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้จัดหาลอตเตอรี่ที่มีโควตาหลุดจองมาจำนวนหนึ่ง จากสำนักแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ในราคาก้อนละ 35,200 บาท (หนึ่งก้อนมี 500 ใบ) โดยจะจ่ายเป็นเงินปันผลในอัตราก้อนละ 2,000 บาท รวมทั้งลอตเตอรี่ที่รับจากไปรษณีย์ จะจ่ายเป็นเงินปันผลในอัตราก้อนละ 2,500 โดยจะจ่ายให้หลังจากหวยออก 3 วัน ได้แก่ ทุกวันที่ 3 และวันที่ 18 ของเดือน พวกตนเห็นว่า น.ส.เอ ทำงานที่สำนักงานน่าเชื่อถือ จึงยอมร่วมลงทุนด้วย โดยพวกตนทำการโอนเงินลอตเตอรี่ที่หลุดจองดังกล่าว

น.ส.พาลินี กล่าวต่ออีกว่า โดยในช่วงแรก น.ส.เอ ได้จ่ายเงินปันผลให้กับพวกตนตามปกติ ใครที่ร่วมลงทุนมากก็จะได้มาก ใครลงทุนน้อยก็จะได้น้อย และ น.ส.เอ ยังอ้างกับพวกตนว่าจะทำการปั่นราคา และจำหน่ายลอตเตอรี่ให้กับผู้ค้ารายย่อยอีกทอดหนึ่งเอง ยิ่งทำให้พวกตนมั่นใจว่ามีการซื้อขายลอตเตอรี่กันจริง ประกอบกับได้เงินปันผลจริงๆ จึงชักชวนกันเพิ่มจำนวนเงินซื้อลอตเตอรี่มากขึ้น จนกระทั่งเริ่มไม่มีการจ่ายเงินปันผลหลายงวดติดต่อกัน จึงไปทวงถาม และขอถอนหุ้นคืน หรือไม่ก็ขอเป็นลอตเตอรี่เพื่อนำมาจำหน่ายเอง แต่ถูกบ่ายเบี่ยงอ้างโน้นอ้างนี่ ไม่ยอมคืนเงินต้นที่ลงทุน ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าถูกหลอกลวงแน่ และไม่มีลอตเตอรี่อยู่จริง เข้าข่ายหลอกลงประชาชนให้ลงทุนและฉ้อโกง

“ขณะนี้พวกตนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากเงินที่นำมาลงทุนได้กู้ยืมและกดจากบัตรเครดิต โดยมีมูลค่าความเสียหายรวม 2,576,980 บาท โดยตนลงทุนซื้อลอตเตอรี่ 8 ก้อน เป็นเงิน 281,600, น.ส.ธัญญาภัค 14 ก้อน เป็นเงิน 492,800 บาท, นายประพันธ์ 5 ก้อน เป็นเงิน 186,000 บาท และนายคมสัน 5 ก้อน 2 เล่ม เป็นเงิน 190,080 บาท รวม 2,5767,980 บาท” น.ส.พาลินี กล่าว

1 ในผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตอนลงทุนครั้งแรกเคยถาม น.ส.เอ มีผู้ร่วมลงทุนทั้งหมดกี่ราย น.ส.เอ บอกว่า ประมาณ 30 ราย จึงเชื่อว่าอาจจะมีเหยื่ออีกหลายรายที่โดนหลอกลงทุนลักษณะดังกล่าว แต่ยังไม่รู้ตัว เนื่องจากยังได้รับเงินปันผลตามปกติ รวมเป็นเงินที่ลงทุนน่าจะเกิน 10 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องเสนอไปที่ ป.ป.ช.จังหวัดฯ เพื่อพิจารณา เมื่อ ป.ป.ช.จังหวัดฯ พิจารณาแล้ว และเห็นว่าเป็นความผิด มีผู้เสียหายจำนวนมาก ป.ป.ช.ก็จะรับไปดำเนินการเอง ถ้าคดีไม่มากจนเกินไป ทาง ป.ป.ช.ก็ส่งเรื่องมาให้ไปพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ หลังจากนั้นก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน ถ้ายังไม่มาก็จะออกหมายจับ เบื้องต้นเป็นคดีฉ้อโกง.