เพราะระบบการปกครองของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี จะยกย่องผู้นำของตนอยู่เสมอ, รายงานความยิ่งใหญ่ที่ไร้เทียมทาน, สร้างรูปปั้นขนาดใหญ่ และติดตั้งงานศิลปะขนาดใหญ่ เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านผู้นำ

แม้ความคล้ายคลึงของนายคิมจะยังไม่ถึงภาพลักษณ์ของพ่อหรือปู่ของเขา แต่วิกฤติโควิด-19 ได้สร้างโอกาสให้แก่นายคิม จอง-อึน ในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ จากผู้นำทางทหาร สู่การเป็น “พ่อของชาติ” มากขึ้น แม้เขาจะออกนโยบายเข้มงวดกว่าที่เคยมีมาก็ตาม และการตรวจสอบประเด็นผ่านมุมมองของการจัดการความไม่มั่นคงทางการเมือง ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับวิธีการ และเหตุผลที่บุคลิกสาธารณะของนายคิม จอง-อึน เปลี่ยนไปในช่วงการปกครองของเขา

ความไม่มั่นคงทางการเมืองสำหรับระบอบสังคมนิยมเคร่งครัดเช่นนี้ มาจากปัจจัยแตกต่างกัน 5 อย่าง และเกาหลีเหนือเคยรับมือสาเหตุส่วนใหญ่เหล่านั้นมาแล้ว โดยอย่างแรกคือ การขับไล่, อย่างที่สองคือ การโค่นล้มภายใน, อย่างที่สามคือ การทำรัฐประหาร, อย่างที่สี่คือ ความเสี่ยงของการกำจัดจากภายนอก และอย่างสุดท้ายคือ การปฏิวัติในวงกว้าง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในเกาหลีเหนือเลย

อย่างไรก็ตาม การระบาดใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ มากมาย รัฐบาลของนายคิม จอง-อึน จึงต้องมุ่งเน้นไปที่การควบคุมผู้คน และปรับปรุงภาพลักษณ์ของผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งถูกนำเสนอต่อประชาชนในประเทศ

หลังจากนั้นเป็นต้นมา นายคิม จอง-อึน มีการเปลี่ยนแปลงด้านบุคลิกและภาพลักษณ์ต่าง ๆ จนในปี 2564 สื่อมวลชนเริ่มมองนายคิมในภาพของ “เพื่อน” นับตั้งแต่ที่เขาได้รับตำแหน่ง “เลขาธิการ” และ “ประธานคณะกรรมการกิจการแห่งรัฐของเกาหลีเหนือ” การใช้คำว่า “สหาย” และการทำให้นายคิมมีมนุษยธรรม ส่งผลให้เขาอยู่ในระดับเดียวกับสามัญชน ผู้ที่สามารถถูกกล่าวถึงด้วยยศเดียวกันได้

ขณะเดียวกัน คำพูดล่าสุดของ น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึม ก็บ่งบอกถึงภาพลักษณ์ใหม่เช่นกัน ด้วยการกล่าวเป็นนัยว่า พี่ชายของเธอคิดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ระบอบการปกครองสามารถอ้างได้ว่า นายคิม จอง-อึน เข้าใจถึงความยากลำบากของประชาชน และเป็นการตีกรอบเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ดึงตัวเขาออกจากภาพที่มักถูกมองว่า ใกล้เคียงกับพระเจ้า เพื่อทำให้เห็นว่าเขามีความสัมพันธ์, เป็นส่วนหนึ่งของผู้คน มากกว่าเป็นตัวตนที่แยกห่างจากพวกเขา และเป็นใครบางคนที่มีความรักและความเห็นใจ

ขณะนี้ นายคิม จอง-อึน กำลังสร้างสมดุลที่ละเอียดอ่อน ด้วยการแสดงให้เห็นว่า ระบอบการปกครองของเขากำลังทำงานเพื่อส่งเสริมความเคารพในเกาหลีเหนือต่อผู้ปกครองตระกูลคิม ขณะที่ภาครัฐกำหนดนโยบายที่เข้มงวดต่อประชาชน แต่มีความหวังเช่นกันว่า เมื่อนำเสนอภาพลักษณ์ของนายคิม จอง-อึน ว่าห่วงใย และมีความเป็นมนุษย์ ประชาชนก็อาจให้อภัยเขามากขึ้น เมื่อนั้นแล้ว ตำนานก็อาจรักษาระบอบการปกครอง ให้คงอยู่ต่อไปได้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS