สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ว่านายซาอีด คาทิบซาเดห์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวถึงกรณีที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 แห่ง หรือ จี 7 ออกแถลงการณ์ประณาม "อิหร่านและกองกำลังที่เกี่ยวข้อง" เป็นผู้ก่อเหตุระเบิดโจมตีเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม "เมอร์เซอร์ สตรีท" ติดธงชาติไลบีเรีย บริหารงานโดยบริษัทโซดิแอกของอิสราเอล ระหว่างกำลังแล่นอยู่ในทะเลนอกอาณาเขตของโอมาน เมื่อปลายเดือนที่แล้ว  ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เป็นลูกเรือชาวสหราชอาณาจักรและชาวโรมาเนีย "เป็นการกล่าวหาที่ไร้สาระ"
ขณะเดียวกัน คาทิบซาเดห์ "ตั้งข้อสังเกต" เกี่ยวกับการที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ของประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่านคนใหม่ และวิจารณ์เรื่องนี้เป็นการสมคบคิดวางแผนร่วมกัน ระหว่างสหรัฐ กับสหราชอาณาจักร และรัฐไซออนิสต์ซึ่งหมายถึงอิสราเอล เพื่อสร้างบรรยากาศไม่มั่นคง การขาดเสถียรภาพ และความหวาดกลัวต่ออิหร่าน ให้เกิดขึ้นในอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลเตหะราน ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในบริเวณนี้มาตลอด
อนึ่ง สถานีโทรทัศน์อัล อลัม ของอิหร่าน รายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือเมอร์เซอร์ สตรีท ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางจากแทนซาเนียไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) "เป็นการตอบโต้" ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น โดยฝูงเครื่องบินรบต้องสงสัยเป็นของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ ) ที่สนามบินในเมืองดารา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย.

เครดิตภาพ : REUTERS