ขณะที่พรรคฝ่ายค้านใช้กลไกศาลรัฐธรรมนูญในการตัดสินชี้ขาด “ทีมการเมืองเดลินิวส์” จึงต้องมาสนทนากับ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ในภาคประชาชนจะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างไรต่อไป

โดย “จตุพร” ได้เปิดฉากกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรู้ตัวเอง เพราะกฎเกณฑ์นี้คุณเป็นคนกำหนด และกฎเกณฑ์นี้คุณสร้างมาเอง คุณฉีกกฎเกณฑ์เก่า ที่สำคัญที่สุด คือ การอ้างว่ารัฐธรรมนูญไม่มีผลย้อนหลัง แล้วกรณีนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กระทำความผิดเมื่อปี 2538 ในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ ซึ่งผ่านร่วม 26 ปี ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ไม่ได้ตัดสิทธิตลอดชีวิต แต่รัฐธรรมนูญ 60 ตัดสิทธิตลอดชีวิต ไม่มีคุณสมบัติลง ส.ส.ได้ ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ก็พิพากษาให้นายสิระพ้นจากตำแหน่ง ขณะที่นายสิระกระทำความผิดเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปี 2534 จะเห็นว่าคนอื่นในประเทศไทยได้รับการปฏิบัติอย่างอยุติธรรมมาโดยตลอด แต่กรณีของพล.อ.ประยุทธ์ คุณไม่มีสิทธิเข้ามาตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว แล้วคุณไปกำหนดกติกาเอง ตั้งแต่การเป็นนายกฯ ครั้งแรกคุณแต่งตั้ง สนช. ครั้งที่สองคุณแต่งตั้ง ส.ว. ก็มาโหวตตัวเอง คุณเอาเปรียบคนมาทุกขั้นตอน จนกระทั่งพอเวลาจะครบ 8 ปี

@ จะมีแนวทางทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากเก้าอี้ได้อย่างไร

หนึ่งก็เป็นเรื่องของขั้นตอนแรกว่า เรื่องนี้แม้เราเห็นว่าไม่ควรไปศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการไปศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายค้านได้ยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 17 ส.ค. ดังนั้นรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ผลจะออกมาอย่างไร เพราะขณะนี้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ยังเงียบ ดังนั้นการชุมนุมกัน โดยนัดหมายกันในวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค. ที่ลานคนเมืองจะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจอีกครั้งว่า จะเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ และใน วันที่ 23 ส.ค. จะมานับเคานท์ดาวน์กัน หลังจากเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค. เข้าสู่วันที่ 24 ส.ค. ตั้งแต่วินาทีแรก ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เท่ากับเป็นนายกรัฐมนตรีเถื่อน

ในมาตรา 170 ของรัฐธรรมนูญ ในกรณีสิ้นสุดตามมาตรา 158 วรรคสี่ ครม. ไม่สามารถรักษาการได้ทั้งคณะ คนที่จะรักษาการคือปลัดกระทรวง และให้ปลัดกระทรวงเลือกคนมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี 1 คน ขั้นตอนของสภานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ต้องเรียกประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 (1) ถ้าไม่ได้ก็ไป (2) รัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนี้

@ หลังวันที่ 24 ส.ค. หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ยอมลงจากตำแหน่งจะทำอย่างไรต่อ

               เชื่อว่าปรากฏการณ์ของคนไทย เรื่องนี้หนักกว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยเยอะ เพราะสุดซอยเป็นเรื่องของกฎหมายฉบับเดียว แต่นี่ละเมิดรัฐธรรมนูญ ในท่ามกลางภาวะที่ประชาชนทุกข์ยากมากที่สุดแล้ว คนไม่มีความหวัง ขณะที่บรรดานักการเมือง นักเลือกตั้งทั้งหลาย ก็กำลังสู้กันเรื่องหาร 100 หาร 500 ท้ายที่สุดจะไม่ได้เลือกตั้งเลย ทางเลือกของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าอยากจะอยู่ต่อตามกฎหมาย มีกรณีเดียว คือ การยุบสภาก่อนวันที่ 23 ส.ค.เที่ยงคืน เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้ตัวเองอยู่เกิน 23 ส.ค. เที่ยงคืน ก็เท่ากับขาดคุณสมบัติตามมาตรา 158 และ 264 ดังนั้นถ้ายุบสภา พล.อ.ประยุทธ์ ก็รักษาการ เพราะยังไม่มีกฎหมายลูกเลือกตั้ง ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า จะต้องเป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่สามารถตราเป็นพระราชกำหนดได้

@คิดว่าหลังวันที่ 23 ส.ค. ไปแล้ว ประชาชนจะยังหนุน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อหรือว่าจะออกมาร่วมขับไล่

               เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหนุนหรือไม่หนุน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เลือกตั้งเสร็จ หัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคได้นำรายชื่อนักการเมืองเซ็นส่งมอบให้ทั้งหมด จัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ พล.อ.เปรม เห็นการถวายฎีกาของ 99 นักวิชาการ ซึ่งนิสิต นักศึกษา ประชาชน จำนวนน้อยนิด ได้แสดงความไม่พอใจ ความไม่พอใจที่ว่าไม่ใช่เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นแต่เป็นเรื่องของการเบื่อว่าเป็นมานาน ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในขณะนั้น ซึ่ง พล.อ.เปรม ก็เปล่งวาจาโดยให้แจ้งไปที่พรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งสนับสนุนว่า “ผมพอแล้ว” จึงเป็นอมตะวาจา ทั้งที่ พล.อ.เปรม มีคุณูปการอธิบายตั้งแต่โชติช่วงชัชวาลเรื่องน้ำมัน เรื่องยุติสงครามกลางเมืองคำสั่ง 66/2523 แต่ พล.อ.ประยุทธ์มีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนที่บอกให้รออีกนิดหนึ่งจะเห็นดอกผล ผมเห็นว่า ต้นไม้ที่มันไม่เคยมีผลไม่เคยมีดอก รอเท่าไรก็ไม่ผลิดอกออกผล เพราะปลูกมา 8 ปีแล้ว มันไม่มีดอกและผลเลย

@การชุมนุมจะมีพลังพอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากเก้าอี้ได้หรือไม่

               เราในฐานะคนที่เคยผ่านการชุมนุม เริ่มจากคนไม่มีไปสู่การมีคนมาร่วม พฤษภาปี 2535 เป็นกองไฟเล็กๆ เหมือนกับเราตอนนี้ จนกระทั่งถึงไม้สุดท้ายที่รามคำแหง ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นยกที่ถึงจุดแตกหักแต่เชื่อว่าตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. เป็นต้นไป ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ จะรู้จักคนไทยมากขึ้น คนไทยเป็นคนที่ตื่นยาก แต่ตื่นมาแล้วจะเอาเรื่อง เพื่อให้ประเทศพัฒนา ดังนั้นขอให้ดูปรากฏการณ์ใกล้ๆ ตอนสุดท้าย คนในช่วง 8 ปีนี้ ลำบากกว่าทั้งช่วง นปช. พันธมิตรฯ กปปส. ชุมนุม หนักกว่าพฤษภา 35 แต่ผมเชื่อว่าเฮือกสุดท้ายของประชาชน เขาจะออกมาร่วมกันจัดการ พล.อ.ประยุทธ์

เพราะฉะนั้นเราก็เหมือนจุดประกายรอ และผมก็ไม่สนใจว่าประชาชนที่เขามาร่วมจะมีความเชื่อทางการเมือง ความชอบพรรคไหน เลือกใคร ไม่เกี่ยว เพราะผมไม่มีสิทธิทางการเมืองอยู่แล้วเป็นเรื่องของประเทศชาติ ว่า เราจะยอมให้บ้านเมืองผ่านไปโดยการเป็นอภิสิทธิชน ทำตัวเหนือกฎหมาย ทั้งที่ตัวเองฉีกกฎหมายเก่าเขียนกฎหมายใหม่ และละเมิดกฎหมายที่ตัวเองกำหนดแต่นำมาใช้บังคับกับคนทุกคน เว้นตัวเอง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ แต่พล.อ.ประยุทธ์ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แม้รัฐธรรมนูญนี้มีต้นตอมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ก็ตาม และ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่ละเมิดเสียเอง ซึ่งทุกกลไกได้ช่วย พล.อ.ประยุทธ์ มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันสายป่านบางๆ ถ้ายังช่วยกันอีก ก็ให้คิดกันเอง อายุมากกันทั้งนั้น ว่ามันจะพังไปถึงไหน

วันนี้รอการระเบิดทางอารมณ์ แต่การเช็กบิลสั้นๆ จะเกิดในวันใดวันหนึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อนั้นจัดการง่ายกว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปด้วยการยุบสภา หากอยู่ต่อ 8 ปีก็เข้าทางประชาชน แต่ถ้ายุบสภารักษาการก็จะเป็นเกมที่เหนื่อยยาก เพราะรักษาการไม่ได้บอกเวลา จะรักษาการ 2 ปีก็ได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายลูกเลือกตั้ง บ้านเมืองอาจจะถึงคราวก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าหลังเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค. ไปแล้ว เก้าอี้ร้อนแน่ อย่างไรก็ไม่ง่ายเหมือนเดิมที่ผ่านมา.