สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ว่านายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 15 ปี การสิ้นสุดสงครามกับอิสราเอล เมื่อปี 2549 ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ "เป็นสัญญาณอันตรายที่สุด" นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามครั้งนั้น และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เลือกตอบโต้ ด้วยการระดมยิงจรวดใส่ "ฉนวนชีบา" หรือ "ฟาร์มชีบา" อยู่ระหว่างอิสราเอล กับที่ราบสูงโกลัน และเลบานอน
อย่างไรก็ตาม หากไอดีเอฟกลับมาโจมตีบริเวณนี้อีกในอนาคต "ทางเลือกต่อไป" ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อาจรวมถึง "พื้นที่ยึดครอง" เมืองกาลิลี และที่ราบสูงโกลัน ซึ่งยังคงเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย
ทั้งนี้ สถานการณ์รุนแรงตามแนวชายแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน เริ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากการที่กองกำลังยังไม่ทราบฝ่ายยิงจรวดตกใส่ภูเขาทางเหนือของอิสราเอล ส่งผลให้เกิดไฟป่า และไอดีเอฟตอบโต้ด้วยการส่งฝูงเครื่องบินรบไปปูพรมโจมตีทางอากาศ ร่วมด้วยการยิงปืนใหญ่ข้ามเขตแดน
รถบรรทุกลำเลียงฐานยิงจรวดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ จอดอยู่ในเขตหมู่บ้านชวายา บนที่ราบสูงโกลัน
ต่อจากนั้นในวันศุกร์ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวด 19 ลูกจากเลบานอนไปยังอิสราเอล แม้ระบบไอเอิร์น โดม สามารถสกัดจรวด 10 ลูกซึ่งถูกยิงออกมาจากทางทิศเหนือ คือเลบานอน อย่างไรก็ตาม จรวด 6 ลูกตกลงบริเวณภูเขาโดฟ ในเขตที่ราบสูงโกลัน และอีก 3 ลูกตกในเขตแดนของเลบานอน แต่นับเป็นการยิงจรวดใส่อิสราเอลในคราวเดียวมากที่สุด ตั้งแต่สงครามเมื่อปี 2549
อนึ่ง ในทางทฤษฎีถือว่าอิสราเอลและเลบานอนยังมีสถานะเป็นประเทศคู่สงครามต่อกัน เนื่องจากการสู้รบครั้งใหญ่ ที่ยาวนานประมาณ 1 เดือน เมื่อปี 2549 ไม่ได้ยุติด้วยข้อตกลงสันติภาพ แต่หลายฝ่ายมองว่าในความเป็นจริง การสู้รบครั้งนั้น คือสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มากกว่า และทั้งสองฝ่าย "สงบศึก" ตามคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) และต่อมาทหารรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตามแนว "เส้นสีน้ำเงิน" ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน.

เครดิตภาพ : AP