จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พบยอดผู้ป่วยจากหลักสิบ หลักร้อย สู่หลักพันในวันที่ 14 เม.ย. ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 1,335 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 35,910 รายแล้วนั้น หลายๆ คนคงจะเกิดข้อสงสัยว่า หาก “ตรวจเจอโควิด-19” แล้วจะเป็นอย่างไรต่อ วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” มีข้อมูลมาฝากกัน
เมื่อ “ผลตรวจออกมาเป็น positive หรือผลบวก” คือติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลทันที
เช็กเลย!อัพเดทล่าสุด ตรวจ’โควิด-19’ฟรีที่ไหนบ้าง?
ขั้นตอนเข้ารับรักษาโควิด-19 กับโรงพยาบาล
นาทีที่รู้ว่าป่วยโควิด-19 คุณจะกลายเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน และ “มีเจ้าหน้าที่ขับรถมารับผู้ป่วยที่บ้านเพื่อนำผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาล” โดยโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จะมีทั้งโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน หากเลือกเข้ารักษากับโรงพยาบาลรัฐ จะถูกส่งตัวไปรักษาตามที่ทางรัฐกำหนดให้
โดยการเลือกเข้ารักษาในโรงพยาบาลนั้น “ควรเลือกโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิการรักษาของตนเองก่อน” เช่น มีประกันสุขภาพเอกชนส่วนตัว ให้ใช้สิทธิประกันสุขภาพส่วนตัว แต่ถ้าไม่มีประกันสุขภาพจะต้องใช้โรงพยาบาลที่อยู่ในเครือประกันสังคม หรือสวัสดิการข้าราชการ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมเช็กจำนวนเตียงที่รองรับกับทางโรงพยาบาลก่อนเสมอ
กรณีที่เตียงไม่พอ
สายด่วน 1330 โดย สปสช.ช่วยทำหน้าที่ประสานจัดหาเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมกับกรมการแพทย์ และ สพฉ. ร่วมจัดหาเตียง
สายด่วนกรมการแพทย์ 1668 กรณีโรงพยาบาลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่มีเตียงรองรับ พร้อมรถ สพฉ.ช่วยรับส่งผู้ติดเชื้อ
วิธีรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทำอย่างไร
1.แพทย์จะส่งตัวผู้ป่วยไปพักในห้องแยกโรคเดี่ยวหรือห้องเฉพาะผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อโควิด-19 พร้อมประเมินอาการ และรักษาตามอาการเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดทั่วไป
2.ผู้ป่วยจะได้รับยาต้านไวรัสในปริมาณที่เหมาะสมกับของแต่ละคน
3.ถ้าผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้น จะถูกย้ายไปที่ห้องแยกผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศ (AIIR) และมีแพทย์คอยดูแล เฝ้าระวัง ติดตามอาการ และรักษาตามอาการที่ผู้ป่วยเป็น
4.หากผู้ป่วยอาการดีขึ้น จะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งหลังเข้ารับการรักษาแล้วมีอาการดีขึ้น หากผลตรวจออกมาเป็นลบ (ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19) และตรวจเพื่อยืนยันผลเป็นครั้งที่ 2 (ระยะห่างจากการตรวจแต่ละครั้งไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง) ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้
ตัวยาที่ใช้ในการรักษาโควิด-19
โดยข้อมูลจาก “กรมควบคุมโรค” ได้ระบุไว้ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ประเทศจีนให้การรับรองการใช้ยา Favilavir ในการรักษา COVID-19 นอกจากนี้มีรายงานการใช้ยาหลายขนาน เช่น ยาต้านไวรัสเอดส์ (lopinavir ร่วมกับ Ritonavir) ใช้ร่วมกับยาต้านไข้หวัดใหญ่, ยาต้านไข้มาลาเรีย (คลอโรควิน), สำหรับยา Remdesivir มีการพบว่าใช้ได้ผลในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองที่ติดเชื้อ SARS และ MERS ทั้งหมดนี้ยังต้องได้รับการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลการรักษาที่เชื่อถือได้ ในการรักษาแนะนำให้รักษาในโรงพยาบาลโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลในการรักษาอย่างเต็มที่และป้องกันผลข้างเคียงอันตรายจากยา
โรงพยาบาลสนามอีกทางเลือกรักษาโควิด-19 มีที่ไหนบ้าง
“โรงพยาบาลสนาม” คือ สถานที่ที่ให้การดูแลรักษาพยาบาลซึ่งเกินศักยภาพการจัดระบบบริการ ในการรองรับผู้ป่วย ทั้งนี้การจัดตั้งจะตั้งนอกสถานพยาบาล ขึ้นกับการดำเนินการของหน่วยงานที่รับผิดชอบใน พื้นที่ เช่น วัด โรงเรียน โรงยิม หรือ หอประชุมขนาดใหญ่ เป็นต้น
หนุ่มรีวิว’โรงพยาบาลสนาม’ เตรียมตัวก่อนต้องอยู่จริง!
กทม.ได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน รองรับได้ 500 เตียง
2.โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตทวีวัฒนา รองรับได้ 200 เตียง
3.สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บางบอน เขตบางบอน รองรับได้ 200 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้วันที่ 13 เม.ย.นี้
4.ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก รองรับได้ 350 เตียง ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงสถานที่
-ทั่วประเทศเตรียมรพ.สนาม รับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19
ทั่วประเทศเตรียมรพ.สนาม รับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19
สำหรับแผนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของกระทรวงโหม จากการสนับสนุนของเหล่าทัพ เพื่อรองรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลโดยรอบ (ระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากกรุงเทพ) ได้แก่
- ปตอ.1 กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (แจ้งวัฒนะ) จังหวัดกรุงเทพฯ จำนวน 200 เตียง
- สนามมวยค่ายบุรฉัตร กองพลทหารช่าง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 100 เตียง
- สนามกีฬากลาง กรมการทหารช่าง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 400 เตียง
- โรงพลศึกษา ศูนย์พัฒนาการกีฬา กรมการทหารช่าง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 120 เตียง
- โรงรถ กองพันทหารช่าง กรมการทหารช่าง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 120 เตียง
- ศูนย์ฯ 8 (วัฒนาแฟคทอรี 2) จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 1,000 เตียง
- ศูนย์ฯ 9 (บ.วิท วอเตอร์ฯ ) จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 485 เตียง
- ศูนย์ฯ 10 (สภาอุตสาหกรรม) จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 500 เตียง
- ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 150 เตียง
- รร.การบิน อาคารแผนกฝึก (ทอ.) อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จำนวน 120 เตียง
สถานที่ต่างๆ ที่สามารถเป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม หากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น
-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รองรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในกรุงเทพฯ โดยมีจำนวนเตียงทั้งหมด 470 เตียง
-จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 280 เตียง ขึ้นที่บริเวณห้องโถงนิทรรศการ 1 ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่…
ขอบคุณข้อมูลจาก @กรมควบคุมโรค