การแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 “โซโลเกมส์ 2022” ที่เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ฟุตบอลผู้พิการทางสมอง มี 4 ทีม ดวลแข้งแบบพบกันหมด ทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่ 2 พบกับ กัมพูชา โดยแข่งขันครึ่งละ 30 นาที ปราฏว่า แข้งไทย ถล่มไปหายห่วง 9-0 ครึ่งแรก ไทย ได้ประตูจากแฮตทริกของ “เจ้าบิว” บรรณศักดิ์ นึพอ นาทีที่ 7, 14, 23, สุขิตกุล บุญสิงห์ นาทีที่ 26, เสฏฐวุฒิ แสงม้า นาทีที่ 28, กิตติ์ธเนศ วริศฐานกุลนันนท์ นาทีที่ 30 จากนั้นครึ่งหลัก มาได้จาก ชนาธิป ดีมั่น นาทีที่ 37, 59 และ ณรงค์ชัย ท้าวหงส์ นาทีที่ 53 ทำให้ แข้งพาราไทย ชนะ 1 นัด แพ้ 1 นัด นัดต่อไป ไทย จะพบกับ เมียนมา วันที่ 2 ส.ค. เวลา 15.00 น.

หลังจบเกม “โค้ชหมี” นาวาเอก สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน เผยว่า นัดนี้เหมือนเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจให้กับแข้งพาราไทย หลังจากนัดแรก ค่อนข้างตื่นสนาม ทุกคนทำได้ดี โดยเฉพาะจังหวะจบสกอร์ ที่ตนพอใจมาก

ส่วน ยิงธนู ทัพโรบินฮู้ดไทย ทำผลงานได้ดี ผ่านเข้ารอบชิงเหรียญทอง ได้ถึง 5 รุ่น เริ่มจากประเภทคันธนูโค้งกลับ ชายเดี่ยว “อ๋อง” หาญฤชัย เนตรศิริ รอบ 16 คน ได้บาย รอบ 8 คน ชนะ อินโดนีเซีย 6-0 รอบรองชนะเลิศ หาญฤชัย โกงความตายจากโดนนำก่อน 4-0 พลิกแซงกลับมาชนะนักกีฬาเจ้าภาพ 6-4 ในการยิงชุดสุดท้าย ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับโรบินฮู้ดอินโดนีเซีย อีกราย

ประเภทคันธนูโค้งกลับ หญิงเดี่ยว ภัทรภร ปัตตะแวว รอบ 8 คน ได้บายรอบรองชนะเลิศ ชนะ อินโดนีเซีย 6-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ อินโดนีเซีย อีกราย ส่วน ธภัทร ฉัตร์ยศกร รอบ 8 คน ชนะ ฟิลิปปินส์ 6-2 รอบรองชนะเลิศ แพ้ อินโดนีเซีย 0-6 ต้องไปชิงเหรียญทองแดง กับ ฟิลิปปินส์, ประเภทคันธนูโค้งกลับ คู่ผสม มีแค่ 2 ชาติ ลงชิงชัย ทำให้ “อ๋อง” หาญฤชัย เนตรศิริ กับ ภัทรภร ปัตตะแวว ได้ไปชิงกับคู่ผสมอินโดนีเซีย, ประเภทคันธนูโค้งกลับ หญิงคู่ มี 2 ชาติ ลงชิงชัย ทำให้ ภัทรภร ปัตตะแวว กับ ธภัทร ฉัตร์ยศกร ไปชิงกับอินโดนีเซีย และประเภทคันธนูโค้งกลับ ชายคู่ “อ๋อง” หาญฤชัย เนตรศิริ กับ พรชัย พิมพ์ทอง พลิกแซงชนะ ฟิลิปปินส์ 6-4 เข้าไปชิงเหรียญทอง กับ อินโดนีเซีย โดยรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันวันที่ 3 ส.ค.

ทางด้าน เทเบิลเทนนิส แข่งขันรอบพบกันหมด นัดสุดท้าย ประเภททีมชาย คลาส 1-3 ไทย (ถิรายุ เชื้อวงษ์, อนุรักษ์ ลาววงษ์, บุสรี วาแวนิ, ณัฐวุฒิ ทินาเทศ) เอาชนะ อินโดนีเซีย 2-0 คู่ คว้าทองมาครอง ส่วนผลที่แข่งจบเมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค. นักปิงปองพาราไทย คว้าไป 4 ทอง 4 เงิน ทำให้ทีมนักตบลูกเด้งพาราไทย ปิดฉากประเภททีม ด้วยการคว้าไป 5 ทอง กับ 4 เงิน

โดยอีก 4 ทองของไทย ได้มาจา ทีมชาย คลาส 5 นรการ จันผกา, ธีรเดช กลางมณี, ทีมหญิง คลาส 1-3 ดารารัตน์ อาสายุทธ์, ภัทรวดี วราฤทธิ์ดำรงกุล, ชิลชิตพยัคฆ์ บุตรวรรณสิริณา, ปฐมวดี อินต๊ะนน, ทีมหญิง คลาส 4-5 วิจิตรา ใจอ่อน, วาสนา ศรีงาม, ปานวาด ศรีงาม, ศุภลักษณ์ บุตรกัณหา และทีมชาย คลาส 6-7 รุ่งโรจน์ ไทยนิยม, เฉลิมพงษ์ พันภู่, สุริยนต์ ถาแปง, พิสดาร อยู่เย็น

ขณะที่ อีก 4 เงิน มาจาก ทีมชาย คลาส 4 ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, วันชัย ชัยวุฒิ, ไพชอล ปาเต๊ะ, กิตินันทน์ หาญพิชัย, ทีมชาย คลาส 8 พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ, คมกฤษ จริตสัจ, ทีมชาย คลาส 10 บรรพต ศิลปคง, พิทักษ์ ก้านกิ่งคำ, ปริญญา ปั๋นแก้ว, สุกิจ สามี และทีมหญิง คลาส 10 อินทิรา จ่าพันดุง, ชญานันทน์ เสฏฐีศรีเกิดกุล