จากการที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการยกเลิกสัญญากับ อากิระ นิชิโนะ อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชาวญี่ปุ่น ไปแล้วนั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมสำหรับการพัฒนาและยกระดับฟุตบอลทีมชาติไทย KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “ทีมช้างศึกโค้ชไทยหรือโค้ชนอกในมุมมองของแฟนลูกหนัง” ซึ่งการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค.64 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่สนใจและติดตามข่าวสารทางการกีฬา มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,179 คน (ชาย 741 คน, หญิง 438 คน)
ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ โดยภาพรวมพบว่า ในสภาพการณ์ปัจจุบันท่านเห็นว่าโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยควรเป็นโค้ชไทยหรือโค้ชนอก ส่วนใหญ่ร้อยละ 37.08 เห็นว่าควรเป็นโค้ชไทย เหตุผล มีประสบการณ์การทำทีมระดับชาติ ตามด้วย มีเทคนิคและรูปแบบการฝึกสอนที่ไม่ด้อยไปกว่าโค้ชนอก เข้าใจในธรรมชาติของนักกีฬา นักกีฬาเชื่อมั่นและให้ความเคารพนับถือ การสื่อสารที่เข้าใจง่าย ค่าตอบแทนไม่สูง ฯลฯ รองลงมา ร้อยละ 35.66 โค้ชนอก เหตุผล ได้รับการยอมรับในระดับสากลและเป็นมืออาชีพ มีรูปแบบการฝึกสอนที่ทันสมัยและหลากหลาย มีความเชี่ยวชาญในการแก้เกมส์และเทคนิคกีฬาฟุตบอสมัยใหม่ ฯลฯ และร้อยละ 27.33 โค้ชชาติใดก็ได้ เหตุผล ขอให้มีชื่อเสียงและผลงานเป็นที่ยอมรับ เข้าใจในบริบทของเกมกีฬาลูกหนัง ค่าตอบแทนที่เหมาะสม มีรูปแบบการฝึกสอนที่ทันสมัย ฯลฯ
คุณลักษณะของโค้ชทีมชาติที่ตอบโจทย์วงการลูกหนังไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.14 ได้รับการยอมรับในผลงานและชื่อเสียง รองลงมา ร้อยละ 22.74 มีรูปแบบการฝึกสอนที่ทันสมัย ร้อยละ 18.94 เข้าใจในธรรมชาติและสมรรถนะของนักกีฬา ร้อยละ 16.21 มีระเบียบวินัยและจิตวิทยาสูง ร้อยละ 12.38 ทุ่มเทมุ่งมั่นกล้าตัดสินใจ และอื่นๆ ร้อยละ 5.59
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่าจากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่าวันนี้แฟนลูกหนังส่วนใหญ่ฟันธงแล้วว่าโค้ชไทยเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการเข้ามาเป็นกุนซือทีมช้างศึก ซึ่งเหตุผลที่น่าสนใจในการสนับสนุนโค้ชไทยที่เป็นจุดเด่นคือมีเทคนิคและรูปแบบการฝึกสอน ที่ไม่ด้อยไปกว่าโค้ชนอก รวมทั้งเข้าใจในธรรมชาติของนักกีฬา และมีค่าตอบแทนรายเดือนที่ไม่สูงมากนัก เป็นต้น แต่ในทางกลับกัน กลุ่มตัวอย่างที่ต้องการให้ใช้โค้ชนอกต่าง ก็มีเหตุผลเข้ามาสนับสนุนที่หลากหลาย ซึ่งจากการวิเคราะห์แล้วอาจจะเป็นเพราะว่า วันนี้วงการลูกหนังโลกหรือในระดับสากล จะให้การยอมรับโค้ชนอก ที่มีฝีมือและผลงานมากกว่าโค้ชของชาติตนเอง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาสนับสนุนการฝึกสอนก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงผู้ฝึกสอนทีมช้างศึก ที่สอดคล้องและตอบโจทย์กับบริบทของวงการลูกหนังไทย จะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างบางส่วน ไม่ติดใจว่าจะเป็นโค้ชไทยหรือโค้ชนอก ขอเพียงให้ได้โค้ชที่มีชื่อเสียงและผลงานเป็นที่ยอมรับก็พอ ต่อกรณีนี้อาจจะเปรียบเทียบได้กับคำกล่าวที่ว่าแมวสีอะไรไม่สำคัญขอให้จับหนูได้ก็น่าจะดี ดังนั้นจากเสียงสะท้อนหรือการมีส่วนร่วมของแฟนกีฬาลูกหนังที่ผ่านการสำรวจในครั้งนี้ คาดว่าคงจะเป็นประโยชน์และหนึ่งในมิติสำหรับทางเลือกให้กับสมาคมกีฬาลูกหนังไทย ได้ไม่มากก็น้อย.