เพิ่งจบไปหมาด ๆ สำหรับละคร “คู่เวร” ซึ่งถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญก่อนทิ้งทวนที่ช่อง 3 ของนางเอกสาว โม-มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ ที่ทำเอาคนดูอินกันทั่วบ้านทั่วเมือง ล่าสุด “คอลัมน์ดาวต่างมุม” มีโอกาสพูดคุยกับ “โม” แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เลยต้องขออัพเดทถึงแพลนงานต่าง ๆ หลังผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ รวมไปถึงเรื่องมุมมองความรัก เมื่อหัวใจที่กลับมาโสดสนิทอีกครั้ง

“คู่เวร”การพลิกบทบาทครั้งสำคัญก่อนทิ้งทวนที่ช่อง 3?

“บทหวาน ในละครคู่เวร ถือว่าพลิกบทบาทเรื่องนึงเลยค่ะ บอกเลยว่ายากมาก ซับซ้อนมาก ๆ โกยทุกศาสตร์การแสดงที่เคยเรียนในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะ ไทย, อเมริกา หรือว่า เกาหลี ทุกคอร์สที่เคยลงเรียนมาในชีวิต โมหยิบเอามาปรับใช้กับเรื่องนี้หมดเลยค่ะ เพราะหวาน เป็นตัวละครที่มีการพัฒนาทางอารมณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน ตอนโมอ่าน มันรวมกันไปหมด ทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งสงสาร”

คนดูอินถึงขนาดอยากหยุมหัว เจอฟีดแบ็กยังไงบ้าง ? 

ตอนนี้ไปไหนคนเรียกว่าหวานแล้วค่ะ บางคนก็เรียก ขมปี๋ ทำไมร้ายจัง คือ ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือรุ่นคุณแม่ คุณป้า คุณย่า คุณยาย ก็จำได้ ล่าสุดโมไปต่างจังหวัด ก็มีคุณป้าเข้ามาทัก ดีใจมาก ที่คนดูแล้วอินกับตัวละครหวาน ทั้งในโซเชียลมีเดีย และตามเพจต่าง ๆ โมก็มีโอกาสได้อ่านนะคะ เป็นการทำงานที่เกินคำว่าหายเหนื่อย มันเป็นรางวัลของการทำงานที่ดีจริง ๆ ค่ะ”

ล่าสุดตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระอีกครั้ง?

“ด้วยความที่เราโตขึ้น และเราอยากได้ประสบการณ์ที่หลากหลายในการทำงาน เดี๋ยวนี้มีแพลตฟอร์ม และช่องทางที่มากขึ้น อยากลองอะไรที่มันหลากหลายมากขึ้น เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตัวเองด้วย ตอนนี้โมเปิดกว้างมาก ร่วมงานได้กับทุกช่องทาง ทุกค่าย ทุกแพลตฟอร์มค่ะ  แล้วโมกำลังจะเปิดกล้องเรื่องใหม่กับทางเชนจ์ 2561 ถ้าใครคิดถึงช่วงนี้ดู Momonhappygirl และติดตามได้ทาง ig, tiktok ไปก่อนนะคะ”

บทไหนที่ยังไม่เคยเล่น และอยากลองเล่น?

“ถ้าไม่เคยเล่นเลยคือ บทผีหรือฆาตกรรม โมว่ามันท้าทาย เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าผีหรือฆาตกรคิดยังไง กลไก การแสดงออก หรือการเคลื่อนไหว เป็นยังไง น่าจะแปลกใหม่สำหรับโมมาก ๆ ค่ะ”

รีวิว 10 ปี ในวงการบันเทิงของ โม-มนชนก หน่อย?

“วงการให้อะไรกับโมเยอะมาก คือ โมทำงานแต่เด็ก นอกจากชื่อเสียง เงินทองที่ทำให้เราได้ดูแลตัวเอง และครอบครัวแล้ว สิ่งที่เราซึมซับเลยคือความรับผิดชอบ เพราะเราทำงานกับคนหลากหลาย ความรับผิดชอบ กับการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ค่ะ สิ่งที่โมเรียนรู้อีกอย่างคือ ความเข้าใจตัวเองและคนอื่น ๆ ว่ามนุษย์เรามีหลากหลาย งานของโมคือการศึกษาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความเข้าใจในเรื่องพวกนี้ค่ะ”

หลายคนมองว่าโมหน้านิ่ง ตัวจริงติสต์หรือเปล่า ให้คะแนนตัวเองหน่อย?

“โมไม่รู้ว่านิยามของคำว่าติสต์ แต่ละคนแปลเหมือนกันมั้ย ถ้าติสต์ หมายถึง อาร์ติสต์หรือคนที่มีอารมณ์เป็นศิลปินนิด ๆ หรือมีความหลากหลายในตัวเอง ก็อาจจะมีส่วนที่ใช่ เพราะโมชอบศิลปะ ชอบอ่านหนังสือ ชอบฟังเพลง ชอบดูหนัง ดูซีรีส์ ดูละคร แต่จริง ๆ โมคิดว่าโมเป็นมนุษย์คนนึง ที่มีหลายพาร์ท หลายสี ภายนอกโมอาจจะดูเหมือนเป็นคนนิ่ง ๆ และด้วยตาที่โต บวกกับพอทำหน้าเฉย ๆ บางทีอาจจะดูดุ หรือน่ากลัว สำหรับคนที่ไม่รู้จัก (หัวเราะ) แต่จริง ๆ โมชิลมากนะ ถ้าได้ลองมาทำความรู้จักกัน พูดคุยกัน ก็อาจจะได้เห็นมุมอื่น ๆ ของโม โมเป็นคนแอคทีฟ ชอบทำกิจกรรม เป็นคนไม่อยู่นิ่ง ชอบกิน ชอบไปคาเฟ่ ชอบถ่ายรูป ชอบออกกำลังกาย ชอบท่องเที่ยว ชอบอยู่กับเพื่อน แต่บางที ก็ชอบใช้เวลากับตัวเอง ดูแลตัวเอง และล่าสุดเพิ่งหลงเสน่ห์ของการปฏิบัติธรรม คือ หลาย ๆ อย่างดูตรงข้ามกันมากนะ แต่ทั้งหมดนี้ ก็คือ โม ซึ่งก็มีความหลากหลายอยู่นะ ถ้าต้องให้คะแนน คงคิดว่า 7/10 ละกัน”

อัพเดทสเตตัสหัวใจหน่อย โสดอีกครั้ง?  

“โมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของความสัมพันธ์ ตอนนี้โมโอเคค่ะ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยโสด (หัวเราะ) แล้วก็ปกติก็ทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอดอยู่แล้วค่ะ ตอนนี้ก็มีความสุขกับปัจจุบัน ไม่ได้เหงาอะไร โมมีกิจกรรมเยอะ เลยค่อนข้างยุ่ง ๆ ด้วยค่ะ”

มุมมองความรักตอนนี้ เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน?

ไม่มาก ไม่น้อย เป็นระดับปานกลาง โมมองว่าเราโตขึ้น เราเลยมีการจัดอันดับในชีวิตเปลี่ยนไปตามวัย มีหลายเรื่องให้โฟกัส ความรักเลยไม่ใช่อันดับ 1 ในชีวิต ณ ตอนนี้ ตอนนี้โมสนุกกับการทำงานมาก ชอบและตื่นเต้นที่จะได้ทำอะไรใหม่ ๆ นี่ก็เตรียมตัวสำหรับงานแสดงเรื่องใหม่ค่ะ”

โมเป็นคนที่เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ มีมุมมองเรื่องนี้ยังไง?

“โมว่ามันเริ่มจากการที่เรายุติความสัมพันธ์แบบแฟน ด้วยความเข้าใจ เราไม่มีเรื่องให้โกรธกัน หรือเรื่องที่ผิดใจ และครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นคนที่เข้าใจและสนิทกัน เราเลยยังสามารถพูดคุย ช่วยเหลือ เป็นห่วงเป็นใยกันในฐานะเพื่อนได้อยู่ค่ะ โมมองว่ามันก็เป็นเรื่องดีค่ะ”

ล่าสุดเห็นลงไอจีว่า เพิ่งไปปฏิบัติธรรมมา ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะโสด แล้วหันหน้าเข้าหาธรรมะนะ?

“เปล่าเลยค่า (หัวเราะ) จริง ๆ โมตั้งใจไปอยู่แล้ว ปกติไปวัดอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้ลงรูป แต่การไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าภูทับเบิกรอบนี้ เป็นอะไรที่ประทับใจมากจริง ๆ เป็น 3 วันที่มีความสุข และสบายใจ ทำให้รู้เลยว่า การปฏิบัติธรรมไม่ได้ยากเลย โมรู้สึกสงบมาก ๆ ทำให้ได้มองเห็นตัวเอง รู้เท่าทันความคิดและความรู้สึกของตัวเอง มีสติและสมาธิ ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถนำมาปรับใช้ในการใช้ชีวิต และการทำงานได้ด้วยมีสมาธิ และมีสติมาก ๆ ถ้ามีโอกาสโมจะไปอีกบ่อย ๆ ค่ะ”

สุดท้ายฝากอะไรถึงคนที่ติดตามและให้กำลังใจเรามาตลอดบ้าง?

“สำหรับตัวโม โมขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ที่ชื่นชอบ ติดตามผลงาน และชื่นชอบในความเป็นโม ทุกคนเป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ สำหรับ คู่เวร โมขอบคุณแทนหวานนะคะ ถ้าเขารู้ว่ามีคนรักเยอะขนาดนี้ หวานคงมีความสุขมากค่ะ”.

นฤมล แซ่แต้ : เรื่อง